เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 1. ทัฬหวรรค 9. โมรชาดก (159)
8. สุหนุชาดก (158)
ว่าด้วยพฤติกรรมของม้าสุหนุ
(อำมาตย์สำเร็จราชกิจโพธิสัตว์ได้กราบทูลพระราชาถึงพฤติกรรมของม้าว่า)
[15] การที่ม้าพยศสุหนุกับม้าพยศโสณะ
กระทำความสนิทสนมกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติ
ม้าโสณะเป็นเช่นใด แม้ม้าสุหนุก็เป็นเช่นนั้น
ม้าโสณะมีอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นใด
ม้าสุหนุก็มีอารมณ์ฉุนเฉียวเช่นนั้น
[16] ม้าทั้ง 2 ตัวมีปกติวิ่งพล่านไปด้วยอารมณ์
คึกคะนองชอบกัดเชือกล่ามตัวเองเป็นนิตย์พอ ๆ กัน
ความชั่วเข้ากันได้กับความชั่ว
ความไม่สงบเข้ากันได้กับความไม่สงบ
สุหนุชาดกที่ 8 จบ

9. โมรชาดก (159)
ว่าด้วยนกยูง
(นกยูงทองโพธิสัตว์เมื่อจะผูกมนต์เพื่อรักษาป้องกันตัวก่อนออกหากิน ได้
กล่าวคาถานี้ว่า)
[17] ดวงตาของโลก
เป็นเจ้าแห่งแสงสว่างอย่างเอก
กำลังอุทัยทอแสงเรืองรองสว่างไปทั่วปฐพี
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอน้อมไหว้พระอาทิตย์นั้น
ซึ่งทอแสงเรืองรองสว่างไปทั่วปฐพี
วันนี้ ข้าพเจ้าได้ท่านคุ้มครองแล้ว
พึงอยู่เป็นสุขตลอดวัน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :66 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 1. ทัฬหวรรค 9. โมรชาดก (159)
พราหมณ์เหล่าใดถึงฝั่งแห่งพระเวทในธรรมทั้งมวล
ขอพราหมณ์เหล่านั้นจงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้า
และขอจงคุ้มครองข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระโพธิญาณของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น
พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้หลุดพ้นแล้ว
และวิมุตติธรรมของพระพุทธเจ้าผู้หลุดพ้นแล้วเหล่านั้น
นกยูงนั้นเจริญพระปริตรนี้แล้วจึงเที่ยวแสวงหาอาหาร
(นกยูงทองนั้น เมื่อกลับที่พักในเวลาเย็น ได้กล่าวคาถานี้ว่า)
[18] ดวงตาของโลกนี้
เป็นเจ้าแห่งแสงสว่างอย่างเอก
ทอแสงเรืองรองสว่างไปทั่วปฐพี อัสดงคตแล้ว
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าขอน้อมไหว้พระอาทิตย์นั้น
ซึ่งทอแสงเรืองรองสว่างไปทั่วปฐพี
วันนี้ ข้าพเจ้าได้ท่านคุ้มครองแล้ว
พึงอยู่เป็นสุขตลอดคืน
พราหมณ์เหล่าใดถึงฝั่งแห่งพระเวทในธรรมทั้งมวล
ขอพราหมณ์เหล่านั้นจงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้า
และขอจงคุ้มครองข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
พระโพธิญาณของพระพุทธเจ้าเหล่านั้น
พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้หลุดพ้นแล้ว
และวิมุตติธรรมแห่งพระพุทธเจ้าผู้หลุดพ้นแล้วเหล่านั้น
นกยูงนั้นเจริญพระปริตรนี้แล้วจึงอยู่ในที่อยู่ของตน
โมรชาดกที่ 9 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :67 }