เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 15. กกัณฏกวรรค 6. กากชาดก (146)
4. นังคุฏฐชาดก (144)
ว่าด้วยการบูชาไฟด้วยหางวัว
(พราหมณ์บำเรอไฟผู้เป็นโพธิสัตว์เข้าใจว่าการบูชาไฟไม่มีประโยชน์ จึงกล่าวว่า)
[144] ไฟอสัตบุรุษ การที่เราบูชาเจ้าด้วยหางนั้นก็มากพอแล้ว
วันนี้ เนื้อไม่มีสำหรับเจ้าผู้ชอบเนื้อ
ขอท่านผู้เจริญจงรับเอาเพียงหางเถิด
นังคุฏฐชาดกที่ 4 จบ

5. ราธชาดก (145)
ว่าด้วยลูกนกแขกเต้าราธะ
(นกแขกเต้าโพธิสัตว์ได้กล่าวเตือนน้องราธะว่า)
[145] พ่อราธะ เจ้ายังไม่รู้ว่า
คนที่ยังไม่มาในปฐมยามมีประมาณเท่าไร
เจ้าพูดเพ้อเจ้ออย่างโง่ ๆ ไปเอง
ในเมื่อแม่โกสิยายนีหมดความเยื่อใยในบิดาของเราแล้ว
ราธชาดกที่ 5 จบ

6. กากชาดก (146)
ว่าด้วยกาวิดน้ำด้วยจะงอยปาก
(ฝูงกาปรึกษากันแล้วพูดว่าไม่สามารถจะทำทะเลให้แห้งได้ จึงกล่าวว่า)
[146] คางของพวกเราล้าแล้วหนอ ปากก็ซีดเซียว
พวกเราพากันวิดอยู่ก็ไม่อาจทำให้น้ำแห้งได้
ห้วงน้ำใหญ่ก็ยังคงเต็มอยู่เช่นเดิม
กากชาดกที่ 6 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :59 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 15. กกัณฏกวรรค 9. เอกปัณณชาดก (149)
7. ปุปผรัตตชาดก (147)
ว่าด้วยผ้าที่ย้อมด้วยดอกคำ
(คนเข็ญใจไม่ใส่ใจถึงความทุกข์ของตน นึกถึงแต่หญิงคนรักนั้นอย่างเดียว
จึงรำพึงถึงโอกาสที่พลาดไปว่า)
[147] การที่ถูกเสียบแทงด้วยหลาว
และการที่กาจิกข้าพเจ้านี้หาเป็นทุกข์แก่ข้าพเจ้าไม่
การที่นางเนื้อทองจักไม่ได้นุ่งห่มผ้าที่ย้อมด้วยดอกคำ
เที่ยวงานตลอดคืนกลางเดือน 12 โน้นซิเป็นทุกข์ของข้าพเจ้า
ปุปผรัตตชาดกที่ 7 จบ

8. สิงคาลชาดก (148)
ว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกเข้าไปในซากช้าง
(สุนัขจิ้งจอกโพธิสัตว์ติดอยู่ในท้องช้างตายเกิดความสังเวช จึงกล่าวว่า)
[148] ไม่เอาอีกแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว
เราจะไม่เข้าไปในซากช้างอีก
เพราะในเวลาที่เข้าไปอยู่ในซากช้างนี้ เรากลัวแทบตาย
สิงคาลชาดกที่ 8 จบ

9. เอกปัณณชาดก (149)
ว่าด้วยต้นไม้มีด้านละใบ
(ทุฏฐราชกุมารเข้าใจต้นสะเดาว่าจะฆ่ามนุษย์ได้ จึงถอนหน่อสะเดาขยี้จน
แหลกแล้ว ตรัสว่า)
[149] ต้นไม้นี้มีใบด้านละใบ จากพื้นดินสูงยังไม่ถึง 4 องคุลี
ผลมีรสเช่นกับยาพิษ เมื่อโตขึ้นจะเป็นเช่นไรหนอ
เอกปัณณชาดกที่ 9 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :60 }