เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [16. ติงสตินิบาต] 9. สัมพุลาชาดก (519)
(ครั้นตำหนิแล้วเมื่อจะสาป จึงกล่าวว่า)
[295] เจ้าคนผู้มีนิสัยประทุษร้าย เจ้าเป็นคนประทุษร้ายมิตร
ผู้ไม่ประทุษร้าย ทั้งเป็นคนพูดจาส่อเสียด
ด้วยการกล่าวคำสัตย์นี้ ขอศีรษะของเจ้าจงแตก 7 เสี่ยง
(พระศาสดาทรงประกาศความที่พระเทวทัตถูกแผ่นดินสูบ จึงตรัสว่า)
[296] เพราะเหตุนั้น บุคคลไม่ควรประทุษร้ายมิตร
เพราะว่าคนอื่นที่จะเลวกว่าคนผู้ประทุษร้ายมิตรไม่มี
อเจลกถูกสัตว์มีพิษสาปกำจัดลงแล้วในแผ่นดิน
ทั้ง ๆ ที่ปฏิญญาว่า เรามีความสำรวม
ก็ถูกทำลายแล้วด้วยคำของจอมนาคินทร์
ปัณฑรกนาคราชชาดกที่ 8 จบ

9. สัมพุลาชาดก (519)
ว่าด้วยความซื่อสัตย์ของพระนางสัมพุลา
(ยักษ์ทานพเห็นพระนางสัมพุลามีจิตปฏิพัทธ์ จึงกล่าวว่า)
[297] โอ้ แม่นางผู้มีลำขาอันกลมกลึง เธอเป็นใคร
ยืนสั่นสะท้านอยู่แต่ผู้เดียวใกล้ ๆ ซอกเขา
เธอผู้มีทรวดทรงน่าเคล้าคลึง เราถามแล้ว
ขอเธอจงบอกชื่อและเผ่าพันธุ์แก่เรา
[298] แม่นางผู้มีทรวดทรงอันงดงาม
เธอเป็นใคร หรือเป็นกัลยาณีของใคร
ส่องสว่างไสวไปทั่วป่าที่น่ารื่นรมย์ซึ่งเป็นที่ที่สีหพยัคฆ์อยู่อาศัย
แม่นางผู้เจริญ เราขอไหว้เธอ เราคือทานพขอนอบน้อมแก่เธอ
(พระนางสัมพุลาได้ฟังดังนั้น จึงได้ตอบว่า)
[299] ข้าพเจ้าชื่อสัมพุลาเป็นพระชายาของพระราชบุตรพระเจ้ากรุงกาสี
ซึ่งประชาชนรู้จักพระองค์โดยพระนามว่า เจ้าชายโสตถิเสน
ทานพผู้เจริญ ขอท่านจงทราบอย่างนี้
ข้าพเจ้าสัมพุลาขอไหว้ท่าน ขอนอบน้อมแก่ท่าน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :583 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [16. ติงสตินิบาต] 9. สัมพุลาชาดก (519)
[300] ท่านผู้เจริญ พระราชโอรสแห่งวิเทหราช
ทรงอาดูรประทับอยู่ในป่า
ข้าพเจ้าอุปัฏฐากพระองค์ผู้ทรงถูกโรคเบียดเบียนตัวต่อตัว
[301] อนึ่ง ข้าพเจ้าแสวงหาของป่า
นำรวงผึ้งหรือเนื้อที่เป็นเดนใดมา พระองค์ก็เสวยสิ่งนั้น
วันนี้พระสรีระของพระองค์คงจะเหี่ยวแห้งแน่นอน
(ทั้ง 2 กล่าวโต้ตอบกันต่อไปว่า)
[302] แม่นางสัมพุลา เธอจะทำอะไรได้กับพระราชบุตร
ผู้ทรงระงมไปด้วยความอาดูรอยู่ในป่า
เราจะเป็นภัสดาของเธอ
[303] เพราะอัตภาพที่ทุรพล เดือดร้อนเพราะความเศร้าโศก
รูปร่างของข้าพเจ้าจะงดงามได้อย่างไร ท่านผู้เจริญ
ขอท่านจงแสวงหาหญิงอื่นที่สวยงามกว่าข้าพเจ้าเถิด
[304] มาเถิดแม่นาง จงขึ้นมายังภูเขาลูกนี้
เรามีภรรยาอยู่ 400 นาง
เธอจะประเสริฐกว่านางเหล่านั้น
และจะสัมฤทธิ์ความประสงค์ทุกอย่าง
[305] แม่นางผู้มีผิวพรรณเปล่งปลั่งประดุจดวงดาว
เธอมีใจประสงค์สิ่งหนึ่งสิ่งใด
สิ่งนั้นทั้งหมดของพี่มีอยู่มาก หาได้ง่าย
ขอเธอจงมาร่วมอภิรมย์กับพี่ ณ วันนี้เถิด
[306] แม่นางสัมพุลา ถ้าเธอไม่ยอมเป็นมเหสี
เธอก็ควรจะเป็นอาหารเช้าของเราในวันรุ่งขึ้น
[307] ฝ่ายเจ้าทานพกินคน มีผมเป็นกระเซิง 7 ชั้น
หยาบช้าทารุณ มีผิวกายดำแดง
ได้จับพระนางสัมพุลานั้นผู้ไม่เห็นที่พึ่งในป่ารวบไว้ในวงแขน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :584 }