เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [15. วีสตินิบาต] 8. ภัลลาติยชาดก (504)
[191] เจ้าทั้ง 2 เหมือนคนมีความทุกข์อย่างแสนสาหัส
พากันคร่ำครวญอยู่ สวมกอดกันเหมือนคนรักกับคนรัก
เราขอถามเจ้าทั้ง 2 ผู้มีร่างกายคล้ายมนุษย์
เหตุไร เจ้าทั้ง 2 จึงพากันเพ้อรำพันไม่สร่างซาอยู่ในป่านี้
[192] เจ้าทั้ง 2 เหมือนคนมีความทุกข์อย่างแสนสาหัส
พากันคร่ำครวญอยู่ สวมกอดกันเหมือนคนรักกับคนรัก
เราขอถามเจ้าทั้ง 2 ผู้มีร่างกายคล้ายมนุษย์
เหตุไร เจ้าทั้ง 2 จึงพากันเศร้าโศกไม่สร่างซาอยู่ในป่านี้
(กินนรีกราบทูลว่า)
[193] พ่อพราน เราทั้ง 2 พลัดพรากกันอยู่หนึ่งราตรี
ไม่อยากจะพลัดพรากจากกัน เมื่อระลึกถึงกันและกัน
จึงพากันเดือดร้อนเศร้าโศกอยู่ตลอดราตรีหนึ่งนั้น
ราตรีนั้นจักไม่มีอีก
(พระราชาตรัสถามว่า)
[194] เจ้าทั้ง 2 คิดถึงทรัพย์ที่พินาศไปแล้วหรือ
หรือคิดถึงบิดามารดาที่ล่วงลับไปแล้ว
จึงพากันเดือดร้อนตลอดทั้งราตรีหนึ่งนั้น เราขอถามเจ้าทั้ง 2
ผู้มีร่างกายคล้ายมนุษย์ เพราะเหตุไร เจ้าจึงแยกกันอยู่
(กินนรีกราบทูลว่า)
[195] แม่น้ำสายนี้ใดมีกระแสน้ำเชี่ยวกราก
ปกคลุมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ไหลผ่านภูผาหิน ท่านเห็นอยู่
แม่น้ำสายนั้น สามีที่รักของดิฉันสำคัญดิฉันว่า
จะติดตามไปจึงได้ข้ามไปในฤดูฝน
[196] ส่วนดิฉันมัวเลือกเก็บดอกปรู ดอกลำดวน
ดอกมะลิซ้อน และดอกคัดเค้า ด้วยหวังว่า
สามีที่รักของดิฉันจักได้ประดับดอกไม้
และดิฉันจักประดับดอกไม้ นอนแนบข้างสามีนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :503 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [15. วีสตินิบาต] 8. ภัลลาติยชาดก (504)
[197] อนึ่ง ดิฉันมัวเลือกเก็บดอกบานไม่รู้โรย
ดอกราชพฤกษ์ ดอกแคฝอย
และดอกย่านทราย ด้วยหวังว่า
สามีที่รักของดิฉันจักได้ประดับดอกไม้
และดิฉันจักประดับดอกไม้นอนแนบข้างสามีนั้น
[198] อนึ่ง ดิฉันมัวเลือกเก็บดอกสาละที่กำลังเบ่งบาน
แล้วร้อยเป็นพวงมาลัย ด้วยหวังว่า
สามีที่รักของดิฉันจักสวมพวงมาลัย
และดิฉันจักสวมพวงมาลัยนอนแนบข้างสามีนั้น
[199] อนึ่ง ดิฉันมัวเลือกเก็บดอกสาละที่กำลังเบ่งบาน
แล้วร้อยเป็นเครื่องรองรับ ด้วยหวังว่า
ดอกไม้ที่ร้อยแล้วนี่แหละ จักเป็นเครื่องปูลาดสำหรับเราทั้ง 2
ณ สถานที่ที่เราทั้ง 2 จักอยู่ร่วมกันตลอดคืนในวันนี้
[200] อนึ่ง ดิฉันมัวเลินเล่อบดไม้กฤษณาและไม้จันทน์ที่ศิลา
ด้วยหวังว่า สามีที่รักของดิฉันจักใช้ชโลมกาย
และดิฉันก็จักใช้ชโลมกายนอนแนบข้างสามี
[201] ครั้งนั้น น้ำซึ่งมีกระแสเชี่ยวกรากได้ไหลบ่ามา
พัดพาเอาดอกสาละ ดอกสน
และดอกกรรณิการ์ไป โดยครู่เดียวนั้นน้ำก็เต็มฝั่ง
จึงเป็นการยากยิ่งที่ดิฉันจะข้ามแม่น้ำสายนี้ไปได้
[202] คราวนั้น เราทั้ง 2 ยืนมองกันและกันอยู่ที่ริมฝั่งทั้ง 2
บางคราวก็ร้องไห้ บางคราวก็ร่าเริงยินดี
ราตรีนั้นได้ผ่านไปอย่างยากเย็นสำหรับเราทั้ง 2
[203] พ่อพราน พอดวงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าตรู่ แม่น้ำแห้ง
เราทั้ง 2 จึงข้ามไปได้ สวมกอดกันและกัน
ทั้งร้องไห้ ทั้งร่าเริงยินดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :504 }