เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [15. วีสตินิบาต] 6. จูฬหังสชาดก (502)
[122] เพราะฟังวาจาไพเราะหู จับจิตจับใจ ซาบซึ้งตรึงใจ
และเพราะได้ฟังวาจาสุภาษิต นายพรานจึงได้ปล่อยลูกมา
(บิดามารดาอนุโมทนาต่อนายพรานว่า)
[123] ขอให้นายพรานจงรื่นเริงบันเทิงใจพร้อมกับบุตรและภรรยา
เหมือนพวกเรารื่นเริงบันเทิงใจในวันนี้
เพราะได้เห็นพ่อโรหณะกลับมา
(พระราชาทรงเห็นนายพรานมาเฝ้า จึงตรัสว่า)
[124] นายพราน เจ้าได้กล่าวไว้แล้วว่า
จักนำตัวเนื้อหรือหนังมามิใช่หรือ
ก็เพราะเหตุอะไรเล่า เจ้าจึงไม่นำตัวเนื้อหรือหนังมาเลย
(นายพรานกราบทูลว่า)
[125] พญาเนื้อได้มาสู่เงื้อมมือและได้ติดบ่วงแล้ว
แต่เนื้อที่ไม่ติดบ่วง 2 ตัวได้เข้ามาหาพญาเนื้อนั้น
[126] ข้าพระองค์นั้นได้มีความสังเวช
ขนพองสยองเกล้า ไม่เคยเป็นมาก่อนว่า
ถ้าเราฆ่าเนื้อตัวนี้ เราจักเสียชีวิตในวันนี้
(พระราชาทรงสดับดังนั้นแล้ว ตรัสว่า)
[127] นายพราน เนื้อเหล่านั้นเป็นเช่นไร มีธรรมเช่นไร
มีสีสันอย่างไร มีปกติอย่างไร
เจ้าจึงสรรเสริญพวกมันเสียหนักหนา
(นายพรานกราบทูลว่า)
[128] เนื้อเหล่านั้นมีเขาสีขาว ขนหางสะอาด
ผิวหนังประดุจทองคำ
เท้าแดง ดวงตาเยิ้ม เป็นที่น่ารื่นรมย์ใจ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :492 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [15. วีสตินิบาต] 6. จูฬหังสชาดก (502)
(นายพรานประกาศสีกายของเนื้อเหล่านั้นว่า)
[129] ขอเดชะพระองค์ผู้สมมติเทพ เนื้อเหล่านั้นเป็นเช่นนี้
มีธรรมเช่นนี้ เป็นผู้เลี้ยงดูบิดามารดา
ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าจึงมิได้นำมาถวายพระองค์
(พระราชาทรงพอพระทัยแล้วทรงรับสั่งปูนบำเหน็จชุบเลี้ยงบุตรนายพรานด้วยยศ
ใหญ่โดยตรัสว่า)
[130] พ่อพราน เราจะให้ทองคำแก่ท่าน 100 แท่ง
ต่างหูแก้วมณีที่มีค่ามาก และบัลลังก์ 4 เหลี่ยม
มีสีอันเป็นสิริคล้ายดอกสามหาว
[131] ภรรยาที่เหมาะสมกัน 2 คน และโคอุสภะอีก 100 ตัว
เราจักครอบครองราชสมบัติโดยธรรม
พ่อพราน ท่านมีอุปการะแก่เรามาก
[132] พ่อพราน ท่านจงเลี้ยงดูภรรยาด้วยกสิกรรม พาณิชกรรม
การให้กู้หนี้ และการเที่ยวแสวงหาโดยธรรมเถิด
อย่าได้กระทำบาปอีกเลย
โรหณมิคชาดกที่ 5 จบ

6. จูฬหังสชาดก (502)
ว่าด้วยหงส์สุมุขะผู้ภักดีต่อพญาหงส์จูฬหังสะ
(พระโพธิสัตว์เกิดเป็นพญาหงส์ทองเมื่อจะทดลองใจหงส์สุมุขะ จึงกล่าวว่า)
[133] ฝูงหงส์เหล่านั้นถูกภัยคุกคาม
มีความกลัวจนต้องบินหนีไป
ท่านสุมุขะผู้มีผิวพรรณเหลืองอร่ามดังทองคำ
ท่านจงบินหนีไปตามความประสงค์เถิด
[134] เราผู้เดียวติดบ่วงอยู่ หมู่ญาติทั้งหลายไม่เหลียวแล
พากันละทิ้งบินหนีไป ไยเล่ายังเหลือเจ้าอยู่แต่ตัวเดียว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :493 }