เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [15. วีสตินิบาต] 2. จิตตสัมภูตชาดก (498)
(พระโพธิสัตว์มาตังคบัณฑิตกล่าวตอบนางว่า)
[16] ยักษ์ทั้งหลายผู้มีอานุภาพมากยังมีอยู่แล
ก็ยักษ์เหล่านั้นได้ติดตามฤๅษีทั้งหลายผู้เป็นคนดี
ทราบว่าบุตรของท่านมีจิตประทุษร้าย
โกรธเคืองจึงได้ทำให้เป็นอย่างนี้
(นางทิฏฐมังคลิกากล่าวว่า)
[17] ก็ยักษ์ทั้งหลายได้กระทำบุตรของดิฉันให้เป็นอย่างนี้
ส่วนพระคุณเจ้าผู้ประพฤติพรหมจรรย์อย่าโกรธบุตรดิฉันเลย
พระคุณเจ้าผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร
ดิฉันขอถึงพระคุณเจ้าเท่านั้นเป็นที่พึ่งที่ระลึก เป็นบาทเบื้องต้น
ดิฉันได้ติดตามมาด้วยความโศกถึงบุตร
(พระโพธิสัตว์มาตังคบัณฑิตกล่าวว่า)
[18] ทั้งในกาลนั้น ทั้งเดี๋ยวนี้ การคิดประทุษร้ายทางใจบางอย่าง
ของอาตมาก็ไม่มีแก่อาตมา ส่วนบุตรของท่านเป็นผู้มัวเมาเพราะ
ความเมาในพระเวท เรียนจบพระเวทแล้วหารู้จักประโยชน์ไม่
(นางทิฏฐมังคลิกากล่าวว่า)
[19] แน่นอน ท่านผู้เห็นภัยในวัฏฏสงสาร
ธรรมดาคนเรา สัญญาย่อมเลือนไปเพียงชั่วครู่
พระคุณเจ้าผู้มีปัญญาเพียงดังแผ่นดิน
ขอพระคุณเจ้าจงอดโทษสักครั้งหนึ่งเถิด
บัณฑิตทั้งหลายย่อมไม่มีความโกรธรุนแรง
(พระโพธิสัตว์มาตังคบัณฑิตผู้ถูกนางทิฏฐมังคลิกาอ้อนวอนขอโทษให้บุตร จึง
กล่าวว่า)
[20] นี้ก้อนข้าวที่อาตมาฉันเหลือ
มัณฑัพยบุตรของท่านผู้มีปัญญาน้อยจงบริโภค
ยักษ์ทั้งหลายไม่พึงเบียดเบียนมัณฑัพยบุตรของท่าน
และบุตรของท่านจักเป็นผู้ไม่มีโรค

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :472 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [15. วีสตินิบาต] 2. จิตตสัมภูตชาดก (498)
(ลำดับนั้น มารดากล่าวกับบุตรว่า)
[21] พ่อมัณฑัพยะ เจ้าเป็นคนโง่เขลาเบาปัญญา
ไม่ฉลาดต่อบุคคลผู้เป็นเนื้อนาบุญ
ได้ให้ทานในบุคคลผู้มีกิเลสเพียงดังน้ำฝาดมากมาย
ผู้มีการงานเศร้าหมอง ไม่สำรวม
[22] บางพวกเกล้าผมเป็นชฎา บางพวกนุ่งหนังสัตว์
บางพวกปากมีหนวดรุงรังเหมือนบ่อน้ำเก่า
เจ้าจงดูหมู่ชนนี้ มีรูปทราม
มวยผมและหนังสัตว์คุ้มครองคนมีปัญญาทรามไม่ได้
[23] ชนเหล่าใดคลายราคะ โทสะ และอวิชชาได้แล้ว
ชนเหล่านั้นมีอาสวะสิ้นแล้ว เป็นพระอรหันต์
ทานที่บุคคลถวายแล้วในท่านเหล่านั้นมีผลมาก
มาตังคชาดกที่ 1 จบ

2. จิตตสัมภูตชาดก (498)
ว่าด้วยจิตตบัณฑิตกับพระเจ้าสัมภูตบัณฑิต
(พระราชาทรงขับเพลงขับว่า)
[24] กรรมทุกอย่างที่นรชนประพฤติดีแล้วมีผล
ผลกรรมถึงจะเล็กน้อย ชื่อว่าเป็นโมฆะหามีไม่
เราเห็นสัตว์ผู้เกิดมามีอานุภาพมาก
ซึ่งเกิดแต่ผลบุญ เพราะกรรมของตน
[25] กรรมทุกอย่างที่นรชนประพฤติดีแล้วมีผล
ผลกรรมถึงจะเล็กน้อยชื่อว่าเป็นโมฆะหามีไม่
แม้ท่านจิตตบัณฑิตมีมโนรถสำเร็จสมปรารถนา
เหมือนอย่างเราแลหรือ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :473 }