เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [14. ปกิณณกนิบาต] 8. มหาโมรชาดก (491)
[132] ชนทั้งหลายออกจากหมู่บ้านนั้น
พากันคร่ำครวญร้องไห้แล้วได้หลีกไป
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงรักษาอุโบสถด้วยคิดว่า
ความโกรธอย่าได้มารบกวนข้าพเจ้าอีกต่อไป
[133] เจ้าสุนัขจิ้งจอก เนื้อของพวกสัตว์ที่ตายแล้ว
มีอยู่ในป่าช้าเป็นอันมาก
เนื้อนั้นเป็นอาหารที่พอใจของเจ้า
ทำไมเจ้าจึงอดกลั้นความหิวกระหายรักษาอุโบสถอยู่เล่า
[134] ข้าพเจ้ายินดีในซากศพ ติดใจในเนื้อช้าง
จึงได้เข้าไปยังท้องช้างใหญ่
ลมร้อนและแสงแดดอันแรงกล้าได้แผดเผา
จนกระทั่งทวารหนักของช้างเชือกนั้นแห้งยุบลง
[135] พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งผอมทั้งเหลือง ทั้งไม่มีทางออก
ต่อมาเมฆฝนกลุ่มใหญ่ได้ตกมาโดยพลัน
ทำให้ทวารหนักของช้างเชือกนั้นเปียกชุ่ม
[136] พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าออกจากท้องช้างนั้นมาได้
เหมือนดั่งดวงจันทร์พ้นจากปากราหู
เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงรักษาอุโบสถด้วยคิดว่า
ความโลภอย่าได้มารบกวนข้าพเจ้าอีกต่อไป
[137] เจ้าหมี เมื่อก่อนเจ้าเที่ยวเคี้ยวกินปลวกทั้งหลาย
ที่จอมปลวกอยู่ ทำไมเจ้าจึงอดกลั้นความหิวกระหาย
รักษาอุโบสถอยู่เล่า
[138] ข้าพเจ้าดูหมิ่นที่อยู่ของตน ได้ไปยังหมู่บ้านมลรัฐ
เพราะความอยากเกินไป ชนทั้งหลายออกจากหมู่บ้านนั้น
ทุบตีข้าพเจ้าด้วยคันธนูและไม้ค้อน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :444 }