เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [13. เตรสกนิบาต] 7. อกิตติชาดก (480)
[79] กาลิงคพราหมณ์ผู้ไม่ยอมรับคำชมเชยนั้นได้กราบทูลอย่างนี้ว่า
ความจริง ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นนักพยากรณ์
ส่วนพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นสัพพัญญู พระพุทธเจ้าข้า
[80] ก็พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงเป็นสัพพัญญู
และทรงรู้ทุกอย่าง หาทรงทราบด้วยสูตรไม่
ส่วนข้าพระองค์ทั้งหลายรู้ได้ด้วยกำลังวิชาอาคม
พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงรู้ชัดทุกสิ่งทุกอย่าง
[81] ลำดับนั้น พระราชาทรงนำระเบียบดอกไม้
และเครื่องลูบไล้ไปบูชา ฉลองต้นโพธิ
ด้วยดนตรีต่าง ๆ ที่รับสั่งให้ประโคมแล้วเสด็จกลับ
[82] พระเจ้ากาลิงคะทรงรับสั่งให้เก็บดอกไม้หกหมื่นเล่มเกวียน
บูชาโพธิมณฑลสถานอันยอดเยี่ยมทุกวัน ดังนี้แล
กาลิงคโพธิชาดกที่ 6 จบ

7. อกิตติชาดก (480)
ว่าด้วยอกิตติดาบส
(พระศาสดาทรงประกาศเรื่องนี้ว่า)
[83] ท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่แห่งภูตทอดพระเนตรเห็น
อกิตติดาบสเข้าฌานอยู่ จึงตรัสถามว่า
ท่านมหาพราหมณ์ พระคุณเจ้าปรารถนาอะไรหรือ
จึงเข้าฌานอยู่องค์เดียวในเวลาอากาศอบอ้าว
(พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า)
[84] ขอถวายพระพรท้าวสักกะ การเกิดอีก 1
การที่สรีระแตกทำลาย 1 การหลงลืมสติตาย 1 เป็นทุกข์
เพราะเหตุนั้น ท้าววาสวะ อาตมาจึงเข้าฌาน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :409 }