เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [13. เตรสกนิบาต] 6. กาลิงคโพธิชาดก (479)
[65] ขอเดชะพระมหาราช ส่วนพระองค์ข้าพระองค์คิดไตร่ตรองดู
แล้วว่า สามารถจะช่วยปลดเปลื้องทุกข์ได้
เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์จึงกราบทูลให้พระองค์ทรงทราบ
(พระศาสดาตรัสพระคาถาสุดท้ายว่า)
[66] พระราชาผู้ผดุงรัฐให้เจริญของชาวแคว้นกาสี
มีพระหฤทัยเลื่อมใสได้พระราชทานทองคำแท้ ๆ แก่เขา 14 แท่ง
ทูตชาดกที่ 5 จบ

6. กาลิงคโพธิชาดก (479)
ว่าด้วยพระเจ้ากาลิงคะทรงบูชาโพธิมณฑล
(พระศาสดาทรงประกาศเรื่องนี้ว่า)
[67] พระเจ้าจักรพรรดิพระนามว่ากาลิงคะ
ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรม
ทรงพญาช้างแก้วซึ่งมีอานุภาพมาก ได้เสด็จไปใกล้โพธิพฤกษ์
[68] พราหมณ์ปุโรหิตภารทวาชะ ชาวกาลิงคะพิจารณาดูภูมิภาค
แล้วประคองอัญชลี ได้กราบทูลพระราชา
พระนามว่ากาลิงคะ ผู้เป็นโอรสของพระดาบสว่า
[69] ขอเดชะพระมหาราช ขอพระองค์เสด็จลงมาเถิด
สถานที่นี้เป็นภูมิภาคที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงยกย่องแล้ว
เพราะสถานที่นี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้ล้ำเลิศ
ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ทรงรุ่งเรืองอยู่
[70] ภูมิภาคนี้ ต้นหญ้าลดาวัลย์เวียนเป็นทักษิณาวัฏ
ภูมิภาคนี้เป็นจุดศูนย์กลางแห่งแผ่นดิน
ขอเดชะพระมหาราช ข้าพระองค์ได้สดับมาดังนี้
[71] ภูมิภาคแห่งนี้เป็นจุดศูนย์กลางแห่งแผ่นดิน
ซึ่งเป็นที่รองรับสรรพสัตว์ เป็นแผ่นดินที่มีสาครล้อมรอบ
ขอพระองค์เสด็จลงมานมัสการเถิด พระเจ้าข้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :407 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [13. เตรสกนิบาต] 7. อกิตติชาดก (480)
[72] พญาช้างเหล่าใดถึงจะเป็นช้างแก้วและเกิดในตระกูลสูง
พญาช้างเหล่านั้นก็เข้าไปใกล้สถานที่มีประมาณเพียงนั้นไม่ได้
[73] พญาช้างถึงจะเกิดในตระกูลสูงก็จริง
ขอพระองค์ทรงไสพญาช้างตัวที่ฝึกแล้วไปเถิด
สถานที่มีประมาณเพียงนี้ พญาช้างก็ไม่สามารถจะเข้าไปได้
[74] พระเจ้ากาลิงคะครั้นทรงสดับถ้อยคำนั้นแล้ว
ทรงใคร่ครวญวาจาของปุโรหิตผู้พยากรณ์
แล้วทรงไสพญาช้างไปด้วยพระดำริว่า
เราจักรู้ตามคำที่พราหมณ์นี้พูดจริงหรือ
[75] ส่วนพญาช้างที่พระราชาทรงไสไป
ได้เปล่งเสียงโกญจนาทอันกึกก้อง ได้ถอยหลังคุกเข่าลง
เหมือนไม่สามารถจะนำภาระอันหนักไปได้
[76] พราหมณ์ปุโรหิตภารทวาชะชาวกาลิงคะรู้ว่า
พระคชาธารสิ้นชีพเสียแล้วจึงได้รีบกราบทูลพระเจ้ากาลิงคะว่า
ขอพระองค์เสด็จประทับพระคชาธารเชือกอื่นเถิด
พระคชาธารเชือกนี้สิ้นชีพแล้ว พระเจ้าข้า
[77] พระเจ้ากาลิงคะครั้นได้สดับคำนั้นแล้ว
รีบประทับพระคชาธารเชือกอื่น
เมื่อพระราชาเสด็จประทับแล้ว
พระคชาธารก็ล้มลงบนแผ่นดิน ณ ที่นั้นเอง
เป็นอันว่า คำของปุโรหิตผู้ถวายพยากรณ์
ได้เป็นจริงตามที่ช้างปรากฏแล้ว
[78] พระเจ้ากาลิงคะได้ตรัส
กับพราหมณ์ปุโรหิตกาลิงคะดังนี้ว่า
ท่านนั่นแหละเป็นสัมพุทธะ สัพพัญญูรู้เห็นเหตุทั้งปวง

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :408 }