พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 10. ลิตตวรรค 2. มหาสารชาดก (92)
รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ
1. สุราปานชาดก 2. มิตตวินทชาดก
3. กาฬกัณณิชาดก 4. อัตถัสสทวารชาดก
5. กิมปักกชาดก 6. สีลวีมังสกชาดก
7. มังคลชาดก 8. สารัมภชาดก
9. กุหกชาดก 10. อกตัญุชาดก
10. ลิตตวรรค
หมวดว่าด้วยลูกสกาเคลือบยาพิษ
1. ลิตตชาดก (91)
ว่าด้วยลูกสกาเคลือบยาพิษ
(นักสกาโพธิสัตว์เตือนนักเลงสกาโกงว่า)
[91] บุรุษกลืนลูกสกาที่เคลือบยาพิษอย่างแรงกล้าก็ยังไม่รู้ตัว
เฮ้ย เจ้านักเลงชั่ว เจ้าจงกลืนเข้าไป
พิษร้ายแรงจักออกฤทธิ์แก่เจ้าในภายหลัง
ลิตตชาดกที่ 1 จบ
2. มหาสารชาดก (92)
ว่าด้วยต้องการคนที่เหมาะสมกับเหตุการณ์
(พระราชาทรงชมเชยพระโพธิสัตว์ผู้เป็นอำมาตย์ว่า)
[92] เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ
เมื่อถึงคราวปรึกษางานต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม
ยามมีข้าวน้ำต้องการผู้เป็นที่รัก
ยามเกิดปัญหาต้องการบัณฑิต
มหาสารชาดกที่ 2 จบ
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 10. ลิตตวรรค 5. มหาสุทัสสนชาดก (95)
3. วิสสาสโภชนชาดก (93)
ว่าด้วยภัยเกิดจากคนผู้คุ้นเคยกัน
(เศรษฐีโพธิสัตว์แสดงธรรมแก่บริษัทว่า)
[93] บุคคลไม่ควรไว้วางใจในบุคคลที่ไม่คุ้นเคยกัน
แม้ในบุคคลที่คุ้นเคยกันก็ไม่พึงไว้วางใจ
ภัยย่อมมีมาจากบุคคลผู้คุ้นเคยกัน
เหมือนภัยจากแม่เนื้อมาถึงสีหะ
วิสสาสโภชนชาดกที่ 3 จบ
4. โลมหังสชาดก (94)
ว่าด้วยการอยู่ในป่าที่น่าสะพรึงกลัว
(คาถานี้ได้ปรากฏแจ่มแจ้งแก่นักบวชชีเปลือยโพธิสัตว์ว่า)
[94] เราเร่าร้อนแล้วเปียกชุ่มอยู่ในป่าอันน่าสะพรึงกลัวผู้เดียว
เปลือยกายไม่ได้ผิงไฟ เป็นมุนีขวนขวายในการแสวงหาพรหมจรรย์
โลมหังสชาดกที่ 4 จบ
5. มหาสุทัสสนชาดก (95)
ว่าด้วยพระเจ้ามหาสุทัศนะ
(พระราชาโพธิสัตว์ทรงพระนามว่ามหาสุทัศนะเมื่อจะสอนสุภัททาเทวี จึงตรัส
คาถานี้ว่า)
[95] สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ
มีความเกิดขึ้นและเสื่อมไปเป็นธรรมดา
ครั้นเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป
การเข้าไปสงบระงับสังขารเหล่านั้นเป็นความสุข
มหาสุทัสสนชาดกที่ 5 จบ