เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [11. เอกาทสกนิบาต] 9. สุปปารกชาดก (463)
(พวกพ่อค้าถามว่า)
[116] ทะเลปรากฏเหมือนต้นอ้อและต้นไผ่
ท่านสุปปารกะ พวกเราขอถาม ทะเลนี้ชื่ออะไร
(พระโพธิสัตว์ตอบว่า)
[117] เมื่อเรือของพวกท่านผู้เป็นพ่อค้าแสวงหาทรัพย์
ออกไปจากท่าภรุคัจฉะ แล่นไปผิดทิศทาง
ทะเลนี้เขาเรียกว่า นฬมาลี
(พวกพ่อค้าถามว่า)
[118] เสียงน่ากลัวมาก น่าสยดสยอง ฟังคล้ายเสียงของอมนุษย์
ทะเลปรากฏเหมือนเป็นหลุมเป็นบ่อ
ท่านสุปปารกะ พวกเราขอถาม ทะเลนี้ชื่ออะไร
(พระโพธิสัตว์ตอบว่า)
[119] เมื่อเรือของพวกท่านผู้เป็นพ่อค้าแสวงหาทรัพย์
ออกไปจากท่าภรุคัจฉะ แล่นไปผิดทิศทาง
ทะเลนี้เขาเรียกว่า พลวามุขี
[120] ตั้งแต่ข้าพเจ้ารู้เดียงสา ข้าพเจ้าจำตัวเองได้ว่า
ข้าพเจ้ายังไม่ได้รู้สึกว่าแกล้งเบียดเบียนสัตว์แม้สักตัวหนึ่งเลย
ด้วยสัจจวาจานี้ ขอเรือจงกลับโดยความสวัสดีเถิด
สุปปารกชาดกที่ 9 จบ

รวมชาดกที่มีในนิบาตนี้ คือ

1. มาตุโปสกชาดก 2. ชุณหชาดก
3. ธัมมเทวปุตตชาดก 4. อุทยชาดก
5. ปานียชาดก 6. ยุธัญชยชาดก
7. ทสรถชาดก 8. สังวรชาดก
9. สุปปารกชาดก

เอกาทสกนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :373 }


12. ทวาทสกนิบาต
1. จูฬกุณาลชาดก (464)
ว่าด้วยนกดุเหว่าจูฬกุณาละ
(พระโพธิสัตว์ได้กล่าวว่า)
[1] บุรุษผู้ไม่ถูกผีสิงไม่ควรเชื่อหญิงที่เป็นคนโลภ
มีจิตกลับกลอก ไม่รู้คุณคน เป็นคนประทุษร้ายมิตร
[2] หญิงเหล่านั้นไม่รู้กิจที่ทำแล้วและยังไม่ทำ
ไม่รู้จักมารดาบิดาหรือพี่น้อง
ไม่ใช่อารยชน ก้าวล่วงธรรมทั้งหลาย
ตกไปสู่อำนาจจิตของตนเท่านั้น
[3] เมื่อมีอันตรายและกิจเกิดขึ้น
หญิงเหล่านั้นย่อมละทิ้งสามีนั้น
แม้อยู่ร่วมกันมานาน เป็นที่รักที่พอใจ
เป็นผู้อนุเคราะห์เสมอด้วยชีวิต
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่วางใจหญิงทั้งหลาย
[4] แท้จริง จิตของหญิงเหมือนจิตของวานร
ขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเงาต้นไม้
หัวใจของหญิงหวั่นไหวไม่หยุดนิ่ง
กลับกลอกเหมือนล้อเกวียนที่กำลังหมุนไป
[5] คราวใด หญิงเหล่านั้นมองเห็นทรัพย์ของชายที่พอจะถือเอาได้
ก็ใช้วาจาอ่อนหวานนำเขาไปสู่อำนาจ
เหมือนกับชาวกัมโพชะใช้สาหร่ายลวงม้า
[6] คราวใด มองไม่เห็นทรัพย์ของชายที่พอจะถือเอาได้
ก็ละทิ้งเขาไปเสียโดยง่ายเหมือนคนข้ามฟาก
พอถึงฝั่งก็ทิ้งแพไปเสีย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :374 }