พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [11. เอกาทสกนิบาต] 9. สุปปารกชาดก (463)
[103] พลช้าง ราชองครักษ์ พลรถ พลราบ
พลเหล่านั้นหม่อมฉันก็ไม่ตัดเบี้ยเลี้ยง
และรายได้ประจำที่ได้ตั้งไว้
[104] อนึ่ง หม่อมฉันมีมหาอำมาตย์และมนตรีผู้คอยรับใช้ช่วยจัดการ
กรุงพาราณสีให้มีมังสาหาร สุรา และข้าวน้ำจำนวนมาก
[105] อนึ่ง แม้พ่อค้าทั้งหลายที่มาจากแคว้นต่าง ๆ ก็พากันร่ำรวย
หม่อมฉันก็จัดการคุ้มครองพ่อค้าเหล่านั้น
ข้าแต่พระเจ้าพี่อุโบสถ ขอพระองค์ทรงทราบอย่างนี้เถิด
(พระอุโบสถกุมารได้สดับดังนั้นแล้ว จึงตรัสว่า)
[106] ขอเดชะพระเจ้าสังวร นัยว่า
ขอพระองค์จงครองราชสมบัติโดยธรรม
แทนพระญาติทั้งหลาย
อนึ่ง ขอพระองค์ผู้มีพระปัญญาและทรงเป็นบัณฑิต
เกื้อกูลแก่พระญาติทั้งหลายเถิด
[107] พระองค์ผู้อันพระญาติแวดล้อมแล้วอย่างนี้
ทั้งได้สะสมรัตนะต่าง ๆ ไว้มากมาย
ศัตรูทั้งหลายย่อมข่มเหงไม่ได้
เหมือนกับพระอินทร์ที่จอมอสูรราวีไม่ได้
สังวรชาดกที่ 8 จบ
9. สุปปารกชาดก (463)
ว่าด้วยพ่อค้าสุปปารกะ
(พวกพ่อค้ากล่าวว่า)
[108] มนุษย์ทั้งหลายมีจมูกแหลม ย่อมโผล่ขึ้น ดำลง
ท่านสุปปารกะ พวกเราขอถาม ทะเลนี้ชื่ออะไร
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [11. เอกาทสกนิบาต] 9. สุปปารกชาดก (463)
(พระโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[109] เมื่อเรือของพวกท่านผู้เป็นพ่อค้าแสวงหาทรัพย์
ออกไปจากท่าภรุกัจฉา แล่นไปผิดทิศทาง
ทะเลนี้เขาเรียกว่า ขุรมาลี
(พวกพ่อค้าถามพระโพธิสัตว์ว่า)
[110] ทะเลปรากฏเหมือนกองไฟและดวงอาทิตย์
ท่านสุปปารกะ พวกเราขอถาม ทะเลนี้ชื่ออะไร
(พระโพธิสัตว์กล่าวแก่พวกพ่อค้านั้นว่า)
[111] เมื่อเรือของพวกท่านผู้เป็นพ่อค้าแสวงหาทรัพย์
ออกไปจากท่าภรุกัจฉา แล่นไปผิดทิศทาง
ทะเลนี้เขาเรียกว่า อัคคิมาลี
(พวกพ่อค้าถามว่า)
[112] ทะเลปรากฏเหมือนนมส้มและนมสด
ท่านสุปปารกะ พวกเราขอถาม ทะเลนี้ชื่ออะไร
(พระโพธิสัตว์ตอบว่า)
[113] เมื่อเรือของพวกท่านผู้เป็นพ่อค้าแสวงหาทรัพย์
ออกไปจากท่าภรุกัจฉา แล่นไปผิดทิศทาง
ทะเลนี้เขาเรียกว่า ทธิมาลี
(พวกพ่อค้าถามว่า)
[114] ทะเลปรากฏเหมือนหญ้าคาและข้าวกล้า
ท่านสุปปารกะ พวกเราขอถาม ทะเลนี้ชื่ออะไร
(พระโพธิสัตว์ตอบว่า)
[115] เมื่อเรือของพวกท่านผู้เป็นพ่อค้าแสวงหาทรัพย์
ออกไปจากท่าภรุกัจฉา แล่นไปผิดทิศทาง
ทะเลนี้เขาเรียกว่า กุสมาลี
