เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [11. เอกาทสกนิบาต] 4. อุทยชาดก (458)
(พระราชธิดาตรัสว่า)
[51] เทพบุตร พระองค์ย่อมพร่ำสอนหม่อมฉันเหมือนแม่เหมือนพ่อ
หม่อมฉัน ขอทูลถามพระองค์ผู้มีวรรณงดงาม
พระองค์ผู้มีพระวรกายงดงามเป็นใครกันหนอ
(ท้าวสักกะตรัสว่า)
[52] พระนางผู้เลอโฉม หม่อมฉันคือพระเจ้าอุทัย
มาที่นี้เพราะมีสัญญากันไว้ หม่อมฉันบอกพระองค์แล้วก็จะไปละ
หม่อมฉันพ้นสัญญากับพระองค์แล้ว
(พระราชธิดาตรัสว่า)
[53] ถ้าพระองค์เป็นพระเจ้าอุทัยจริง
เสด็จมาที่นี้เพราะมีสัญญากันไว้
ขอเดชะพระราชบุตร ขอพระองค์จงพร่ำสอนหม่อมฉัน
ตราบเท่าที่จะได้มาพบกันอีกครั้งหนึ่ง
(พระโพธิสัตว์เมื่อจะทรงสอน จึงตรัสว่า)
[54] วัยย่อมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะเวลาก็เหมือนกัน
ไม่หยุดอยู่กับที่ สัตว์ทั้งหลายย่อมตายแน่นอน
สรีระร่างกายไม่ยั่งยืน ย่อมจะทรุดโทรมไป
แม่อุทัยภัทรา เธอจงอย่าประมาท ประพฤติธรรมเถิด
[55] แผ่นดินทั้งสิ้นเต็มไปด้วยทรัพย์
พึงเป็นของพระราชาผู้เดียวเท่านั้น ไม่พึงตกอยู่ในอำนาจของผู้อื่น
บุคคลผู้ยังไม่ปราศจากราคะ ก็ย่อมจะละทิ้งทรัพย์แม้นั้นไป
แม่อุทัยภัทรา เธอจงอย่าประมาท ประพฤติธรรมเถิด
[56] มารดา บิดา พี่น้องทั้งหลาย แม้ภรรยาสินไถ่ก็ดี
แม้ชนเหล่านั้นก็จะต้องพลัดพรากจากกันและกันไป
แม่อุทัยภัทรา เธอจงอย่าประมาท ประพฤติธรรมเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :363 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [11. เอกาทสกนิบาต] 5. ปานียชาดก (459)
[57] แม่อุทัยภัทรา เธอรู้ว่าร่างกายเป็นอาหารของสัตว์อื่น
รู้ว่าสุคติและทุคติในสังสารวัฏเป็นสภาพที่อยู่อันต่ำต้อยแล้ว
จงอย่าประมาท ประพฤติธรรมเถิด
(พระราชธิดาเลื่อมใสแล้วเมื่อจะทรงชมเชย จึงตรัสคาถาสุดท้ายว่า)
[58] เทพบุตรนี้ตรัสดีแล้ว ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายน้อย
และชีวิตนั้นลำบาก อยู่ได้นิดหน่อย ประกอบไปด้วยทุกข์
หม่อมฉันนั้นจะละทิ้งเมืองสุรุนธนะแคว้นกาสีไปบวชคนเดียว
อุทยชาดกที่ 4 จบ

5. ปานียชาดก (459)
ว่าด้วยการรังเกียจบาปเพราะเผลอไปดื่มน้ำ
(พระปัจเจกพุทธเจ้าเมื่อจะถวายพระพรแก่พระราชา จึงได้ตรัสว่า)
[59] อาตมาเป็นมิตรของชายคนหนึ่งได้ดื่มน้ำของมิตรที่เขามิได้ให้
เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (1)
[60] ก็อาตมาเห็นภรรยาของคนอื่นแล้วเกิดความรัก
เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (2)
[61] ขอถวายพระพรมหาบพิตร พวกโจรในป่าได้จับบิดากับอาตมา
อาตมารู้อยู่ถูกพวกโจรเหล่านั้นถาม
ก็ได้ตอบเรื่องนั้นเป็นอย่างอื่นไป
[62] เหตุนั้น ภายหลังจึงรังเกียจว่า นั้นเป็นความชั่วเราได้ทำแล้ว
เราอย่าได้ทำความชั่วอีกเลย
เพราะเหตุนั้น อาตมาจึงบวช (3)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :364 }