เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [10. ทสกนิบาต] 16. ฆตปัณฑิตชาดก (454)
[178] พ่อฆตบัณฑิต พี่ซึ่งเจ้าได้ช่วยถอนลูกศร
คือความเศร้าโศกขึ้นได้แล้วเป็นผู้ปราศจากความเศร้าโศก
ไม่มีความขุ่นมัว จะไม่เศร้าโศก ไม่ร้องไห้
เพราะได้ฟังคำของเจ้า
(พระศาสดาตรัสคาถาสุดท้ายว่า)
[179] นรชนทั้งหลายผู้มีปัญญาจะเป็นผู้อนุเคราะห์
ย่อมกระทำให้ผู้อื่นปราศจากความเศร้าโศก
เหมือนฆตบัณฑิตทำให้เชฏฐภาดาปราศจากความเศร้าโศก
ฆตปัณฑิตชาดกที่ 16 จบ

รวมชาดกที่มีในนิบาตนี้ คือ

1. จตุทวารชาดก 2. กัณหชาดก
3. จตุโปสถิยชาดก 4. สังขชาดก
5. จูฬโพธิชาดก 6. มัณฑัพยชาดก
7. นิโครธชาดก 8. ตักกลชาดก
9. มหาธัมมปาลชาดก 10. กุกกุฏชาดก
11. มัฏฐกุณฑลีชาดก 12. พิลารโกสิยชาดก
13. จักกวากชาดก 14. ภูริปัญญชาดก
15. มหามังคลชาดก 16. ฆตปัณฑิตชาดก

ทสกนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :353 }


11. เอกาทสกนิบาต
1. มาตุโปสกชาดก (455)
ว่าด้วยพญาช้างเลี้ยงมารดา
(มารดาพระโพธิสัตว์ได้กล่าวคร่ำครวญว่า)
[1] เพราะพญาช้างเผือกนั้นจากไป
ไม้อ้อยช้าง ไม้โมกมัน ไม้ช้างน้าว หญ้างวงช้าง
ข้าวฟ่างและลูกเดือยก็เจริญงอกงาม
อนึ่ง ต้นกรรณิการ์ทั้งหลายที่เชิงเขาก็ออกดอกบานสะพรั่ง
[2] ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือเมืองไหนก็ตาม
พระราชา หรือราชมหาอำมาตย์ผู้มีเครื่องประดับทองคำ
ย่อมจะบำรุงเลี้ยงซึ่งพญาช้าง
ที่พระเจ้าแผ่นดิน หรือพระราชโอรสทรงใช้ประทับทรง
ไม่ครั่นคร้ามอาจสังหารศัตรูได้ด้วยอาหาร
(พระราชาทรงขอร้องพญาช้างนั้นว่า)
[3] พญาช้างจงรับเอาอาหารเถิด อย่าได้ผ่ายผอมเลย
งานหลวงนั้นยังมีอยู่เป็นอันมาก ที่ท่านจะกระทำต่อไป
(พระโพธิสัตว์ฟังพระดำรัสนั้นแล้วจึงกราบทูลว่า)
[4] นางช้างนี้นั้นน่าสงสารจริง ตาบอด ไม่มีผู้นำทาง
เท้าคงจะสะดุดตอดิ้นรนไปจนถึงภูเขาจัณโฑรณะแน่นอน
(พระราชาตรัสถามว่า)
[5] พญาช้าง นางช้างตาบอดไม่มีผู้นำทาง
เท้าสะดุดตอดิ้นรนไปจนถึงภูเขาจัณโฑรณะ
นางช้างเชือกนั้นเป็นอะไรกับเจ้า

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :354 }