เมนู

7. สัตตกนิบาต
1. กุกกุวรรค
หมวดว่าด้วยมาตราวัดศอก
1. กุกกุชาดก (396)
ว่าด้วยมาตราวัดศอก
(พระราชาตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า)
[1] ช่อฟ้าสูงศอกครึ่ง โดยรอบกว้างประมาณ 8 คืบ
ช่อฟ้านั้นทำด้วยแก่นไม้สีเสียด ไม่มีกระพี้
ตั้งอยู่บนอะไร จึงไม่ตกลงมาจากข้างบน
(พระโพธิสัตว์ทูลตอบว่า)
[2] ช่อฟ้าที่จันทัน 30 ตัว ซึ่งทำด้วยไม้แก่น ไม่ตรง
วางเรียงรายไว้เสมอกัน ค้ำยันไว้ และติดแน่นอย่างแข็งแรง
ตั้งอยู่เสมอกัน จึงไม่ตกลงมาจากข้างบน
[3] แม้พระราชาผู้ทรงพระปรีชาก็เช่นกัน มีมิตรไมตรีที่สนิท
เป็นคนสะอาดไม่แตกแยก สงเคราะห์ด้วยดี
ย่อมไม่คลาดไปจากสิริเหมือนช่อฟ้าที่จันทันช่วยยึดไว้
[4] คนมีมีด เมื่อไม่ปอกผลมะงั่วที่มีเปลือกแข็งออก
ก็ย่อมทำให้มีรสขม เมื่อปอกเปลือกออกก็จะทำให้มีรสดีขึ้น
ขอเดชะ แต่เมื่อปอกเปลือกบางออกก็จะทำให้รสไม่ดี ข้อนี้ฉันใด
[5] แม้พระราชาผู้ทรงพระปรีชาก็ฉันนั้น
ไม่ทรงบีบคั้นชาวบ้าน ทรงรวบรวมพระราชทรัพย์
ปฏิบัติพระราชภารกิจตามทำนองคลองธรรม
ทรงทำแต่ความเจริญ ไม่ทรงเบียดเบียนผู้อื่น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :255 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [7. สัตตกนิบาต] 1. กุกกุวรรค 3. สุตนชาดก (398)
[6] บัวมีรากขาวเกิดแต่น้ำสะอาดในสระโบกขรณี
เปลือกตม ฝุ่นละออง และน้ำ
ย่อมไม่ติดดอกบัวที่บานเพราะดวงอาทิตย์ ฉันใด
[7] พระราชาผู้มีความสะอาดในการวินิจฉัยคดี ไม่ทรงหุนหัน
มีการงานบริสุทธิ์ ปราศจากบาปก็ฉันนั้นเหมือนกัน
กรรมกิเลสย่อมไม่แปดเปื้อน
เพราะพระราชาเช่นนั้นเปรียบเหมือนบัวที่เกิดแล้วในสระโบกขรณี
กุกกุชาดกที่ 1 จบ

2. มโนชชาดก (397)
ว่าด้วยราชสีห์มโนชะ
(สุนัขจิ้งจอกปรารภกับตนเองว่า)
[8] เพราะคันธนูโก่งและสายธนูส่งเสียงดัง
พญาเนื้อมโนชะสหายของเราจึงถูกฆ่า
[9] ทางที่ดี เราจะหนีเข้าป่าไปตามสบายเสียแต่เดี๋ยวนี้แหละ
ผู้ที่ตายแล้วเช่นนี้เป็นเพื่อนกันไม่ได้
เราเมื่อยังมีชีวิตอยู่ต้องได้เพื่อนใหม่
(พ่อราชสีห์มโนชะกล่าวว่า)
[10] ผู้ที่คบคนชั่ว ย่อมไม่ได้รับความสุขอย่างแท้จริง
ดูเถิด เจ้ามโนชะนอนตายเพราะคำสั่งสอนของสุนัขจิ้งจอกคิริยะ
(แม่ราชสีห์มโนชะกล่าวว่า)
[11] แม่ไม่ยินดีเลย ลูกคบคนชั่ว
จงดูเถิดเจ้ามโนชะนอนตายจมกองเลือดของตนเอง
(น้องสาวราชสีห์มโนชะกล่าวว่า)
[12] บุคคลผู้ไม่กระทำตามถ้อยคำของผู้เกื้อกูลแนะประโยชน์
ต้องเป็นเช่นนี้ และประสบแต่ความเลว

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :256 }