พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก
[138] แม้หากเจ้าพอใจการตกแต่งขนปาก
ที่นายช่างตกแต่งได้อย่างสวยงามอย่างนี้
เพื่อนเอ๋ย เราจะให้เขาช่วยตกแต่งให้ท่าน
และแก้วมณีเราก็จะมอบให้ท่าน
(นกพิราบโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[139] ท่านเท่านั้นสมควรแก่แก้วมณี
และการตกแต่งขนปากอย่างสวยงาม
การไม่เห็นท่านเป็นที่พอใจของเรา
เราขอลาท่านไปก่อน
มณิชาดกที่ 10 จบ
ขรปุตตวรรคที่ 2 จบ
รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ
1. ขรปุตตชาดก 2. สูจิชาดก
3. ตุณฑิลชาดก 4. สุวัณณกักกฏกชาดก
5. มัยหกสกุณชาดก 6. ปัพพชิตวิเหฐกชาดก
7. อุปสิงฆปุปผชาดก 8. วิฆาสาทชาดก
9. วัฏฏกชาดก 10. มณิชาดก
รวมวรรคที่มีในนิบาตนี้ คือ
1. อวาริยวรรค 2. ขรปุตตวรรค
ฉักกนิบาต จบ
7. สัตตกนิบาต
1. กุกกุวรรค
หมวดว่าด้วยมาตราวัดศอก
1. กุกกุชาดก (396)
ว่าด้วยมาตราวัดศอก
(พระราชาตรัสถามพระโพธิสัตว์ว่า)
[1] ช่อฟ้าสูงศอกครึ่ง โดยรอบกว้างประมาณ 8 คืบ
ช่อฟ้านั้นทำด้วยแก่นไม้สีเสียด ไม่มีกระพี้
ตั้งอยู่บนอะไร จึงไม่ตกลงมาจากข้างบน
(พระโพธิสัตว์ทูลตอบว่า)
[2] ช่อฟ้าที่จันทัน 30 ตัว ซึ่งทำด้วยไม้แก่น ไม่ตรง
วางเรียงรายไว้เสมอกัน ค้ำยันไว้ และติดแน่นอย่างแข็งแรง
ตั้งอยู่เสมอกัน จึงไม่ตกลงมาจากข้างบน
[3] แม้พระราชาผู้ทรงพระปรีชาก็เช่นกัน มีมิตรไมตรีที่สนิท
เป็นคนสะอาดไม่แตกแยก สงเคราะห์ด้วยดี
ย่อมไม่คลาดไปจากสิริเหมือนช่อฟ้าที่จันทันช่วยยึดไว้
[4] คนมีมีด เมื่อไม่ปอกผลมะงั่วที่มีเปลือกแข็งออก
ก็ย่อมทำให้มีรสขม เมื่อปอกเปลือกออกก็จะทำให้มีรสดีขึ้น
ขอเดชะ แต่เมื่อปอกเปลือกบางออกก็จะทำให้รสไม่ดี ข้อนี้ฉันใด
[5] แม้พระราชาผู้ทรงพระปรีชาก็ฉันนั้น
ไม่ทรงบีบคั้นชาวบ้าน ทรงรวบรวมพระราชทรัพย์
ปฏิบัติพระราชภารกิจตามทำนองคลองธรรม
ทรงทำแต่ความเจริญ ไม่ทรงเบียดเบียนผู้อื่น