เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [5. ปัญจกนิบาต] 3. อัฑฒวรรค 5. กโปตกชาดก (375)
(สุนัขจิ้งจอกกล่าวว่า)
[132] โทษของผู้อื่นเห็นได้ง่าย
ส่วนโทษของตนเห็นได้ยาก
เจ้านั่นแหละเสื่อมสิ้นทั้งผัวทั้งชายชู้
ย่อมซบเซายิ่งกว่าเราเสียอีก
(ภรรยาของจูฬธนุคคหบัณฑิตกล่าวว่า)
[133] พญาเนื้อผู้ต่ำทราม เรื่องนี้จริงดังที่ท่านพูด
เรานั้นไปจากที่นี้แล้ว จักอยู่ในอำนาจของผัวอย่างเดียว
(ท้าวสักกเทวราชสดับคำของนางผู้ทุศีลไร้อาจาระ จึงตรัสว่า)
[134] ผู้ใดลักถาดดินไปได้ ถึงถาดสำริดผู้นั้นก็ลักไปได้
บาปที่เจ้าได้กระทำแล้วนั่นแหละ
เจ้าก็จักต้องกระทำมันอีก
จูฬธนุคคหชาดกที่ 4 จบ

5. กโปตกชาดก (375)
ว่าด้วยนกพิราบโพธิสัตว์
(กาคิดจะกินปลา จึงกล่าวว่า)
[135] บัดนี้แหละเราสบายแล้ว ไม่มีโรค
หมดเสี้ยนหนาม นกพิราบก็บินออกไปแล้ว
บัดนี้ เราจะทำตามความพอใจ
เพราะว่าเนื้อและผักที่เหลือจะทำให้เรามีกำลัง
(นกพิราบกลับมาเห็นกาถูกถอนขนทาด้วยน้ำเปรียงเน่า จึงเยาะเย้ยว่า)
[136] นกยางอะไรนี่ มีหงอน เป็นโจร มีเมฆเป็นปู่
แม่นกยาง เจ้าจงลงมาข้างล่างนี้เถิด
กาสหายของเราเป็นสัตว์ดุร้าย

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :224 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [5. ปัญจกนิบาต] 3. อัฑฒวรรค 5. กโปตกชาดก (375)
(กาได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[137] ท่านอย่าหัวเราะเยาะ
เพราะเห็นข้าพเจ้าถูกลูกชายพ่อครัวถอนขน
แล้วทาด้วยผงเมล็ดผักกาด
ผสมกากเปรียงเช่นนี้เลย
(นกพิราบเย้ยหยันอยู่ว่า)
[138] ท่านอาบน้ำชำระกายดีแล้ว
ลูบไล้ด้วยของหอมดีแล้ว
อิ่มหนำสำราญด้วยข้าวและน้ำ
และที่คอของท่านก็ประดับด้วยแก้วไพฑูรย์
ท่านได้ไปถิ่นกชังคละมาหรือ
(กาได้กล่าวว่า)
[139] มิตรก็ตาม ศัตรูก็ตามของท่าน
อย่าได้ไปถิ่นกชังคละเลย
เพราะคนในถิ่นกชังคละนั้น
ถอนขนแล้วผูกกระเบื้องไว้ที่คอของเรา
(นกพิราบกล่าวว่า)
[140] เพื่อนเอ๋ย เจ้าจักประสบความชั่วร้ายเช่นนี้อีก
เพราะปกติของเจ้าเป็นเช่นนั้น
อาหารของมนุษย์เป็นของที่นกไม่ควรกิน
กโปตกชาดกที่ 5 จบ
อัฑฒวรรคที่ 3 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :225 }