เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [5. ปัญจกนิบาต] 2. วัณณาโรหวรรค 10. ปลาสชาดก (370)
(เทพบุตรโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[101] เพราะเหตุอะไรเล่า
ท่านล่วงเลยปราสาทแก้วผลึก
ปราสาทเงิน ปราสาทแก้วมณี
และปราสาททอง แล้วมา ณ ที่นี้
(นายมิตตวินทุกะกล่าวว่า)
[102] ขอท่านจงดูข้าพเจ้าผู้ถึงความหายนะ
เพราะความสำคัญนี้ว่า
ในที่นี้โภคะทั้งหลายเห็นจะ
มีมากกว่าปราสาททั้ง 4 หลังนี้
(เทพบุตรโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[103] ท่านเมื่อมีความปรารถนามากเกินไป
ได้ครอบครองนารี 4 นาง ไม่พอใจนางทั้ง 4
ได้ครอบครองนารี 8 นาง ไม่พอใจนางทั้ง 8
ได้ครอบครองนารี 16 นาง ไม่พอใจนางทั้ง 16
ได้ครอบครองนารี 32 นาง ไม่พอใจนางทั้ง 32
จึงได้ประสบจักร
จึงพัดผันอยู่ที่ศีรษะของท่าน
ผู้ถูกความปรารถนามากเกินไปขจัดแล้ว
[104] ขึ้นชื่อว่าความอยาก
มีสภาพแผ่ไปยิ่งใหญ่ไพศาล
ทำให้เต็มได้ยาก
ก็ชนเหล่าใดกำหนัดตามความอยาก
ชนเหล่านั้นจึงต้องเทินจักรไว้
มิตตวินทุกชาดกที่ 9 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :218 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [5. ปัญจกนิบาต] 2. วัณณาโรหวรรค 10. ปลาสชาดก (370)
10. ปลาสชาดก (370)
ว่าด้วยปลาสเทวดา
(พญาหงส์ปรึกษากับปลาสเทวดาว่า)
[105] พญาหงส์ได้กล่าวกับปลาสเทวดาว่า
นี่เพื่อน ต้นไทรงอกติดอยู่ที่ค่าคบของท่าน
มันงอกขึ้นเพื่อจะตัดสิ่งอันเป็นที่รักของท่าน
(ปลาสเทวดาไม่เชื่อคำของพญาหงส์ จึงกล่าวว่า )
[106] ต้นไทรจงเจริญเติบโตขึ้นเถิด
ข้าพเจ้าจะเป็นที่พึ่งของต้นไทรนั้นเหมือนบิดาและมารดา
และต้นไทรนั้นจะเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าเหมือนกัน
(พญาหงส์กล่าวว่า)
[107] เพราะเหตุใด ท่านจึงปล่อยให้ต้นไม้ที่น่ากลัวดุจข้าศึก
เจริญเติบโตที่ค่าคบ เหตุนั้น ข้าพเจ้าจะขอเตือนท่านแล้วจะไป
การเจริญเติบโตของต้นไทรนั้น ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วย
(ต่อมารุกขเทวดานั้นคร่ำครวญอยู่ว่า)
[108] บัดนี้ ไทรต้นนี้แหละ ทำให้เราหวาดกลัว
เพราะไม่เชื่อฟังคำของพญาหงส์
ซึ่งเป็นถ้อยคำอันสำคัญปานประหนึ่งว่าขุนเขาสิเนรุราช
ภัยอันใหญ่หลวงจึงมาถึงเราแล้ว
(พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสพระคาถาว่า)
[109] ผู้ใดเมื่อเจริญขึ้นกลับกัดกินที่พึ่งอาศัยของตน
ความเจริญของผู้นั้นผู้ฉลาดไม่สรรเสริญ
นักปราชญ์รังเกียจความพินาศ
จึงพยายามกำจัดรากเหง้าของอันตรายนั้น
ปลาสชาดกที่ 10 จบ
วัณณาโรหวรรคที่ 2 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :219 }