เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [5. ปัญจกนิบาต] 2. วัณณาโรหวรรค 9. มิตตวินทุกชาดก (369)
(พระโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงได้กล่าวว่า)
[96] ความเศร้าโศกและความพิไรรำพัน
ไม่ได้ประโยชน์เลยแม้แต่น้อยนิด
คนที่เศร้าโศกเป็นทุกข์ ศัตรูรู้เข้าแล้วย่อมพอใจ
[97] ส่วนคนผู้เป็นบัณฑิตรู้หลักในการวินิจฉัยอรรถคดี
ย่อมไม่สะทกสะท้านในเพราะอันตรายในกาลใด ๆ
เขามีใบหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ยังเหมือนเดิม
ศัตรูเห็นเข้าแล้วย่อมเป็นทุกข์
[98] บุคคลพึงได้ประโยชน์ในที่ใดด้วยประการใด ๆ
คือ ด้วยการร่ายมนต์ ด้วยการปรึกษากับบัณฑิต
ด้วยคำอันเป็นสุภาษิต ด้วยการให้สินจ้างรางวัล
หรือด้วยประเพณี1 พึงพากเพียรพยายาม
ทำประโยชน์ในที่นั้นด้วยประการนั้น ๆ
[99] อนึ่ง ในกาลใดบัณฑิตรู้ว่า
ประโยชน์นี้เราหรือบุคคลอื่นไม่พึงได้รับ
แม้ในกาลนั้นบัณฑิตก็ไม่ควรเศร้าโศก พึงอดกลั้น
ด้วยคิดเสียว่า กรรมเป็นของมั่นคง บัดนี้ เราจะทำอะไรได้
ตจสารชาดกที่ 8 จบ

9. มิตตวินทุกชาดก (369)
ว่าด้วยนายมิตตวินทุกะ
(นายมิตตวินทุกะเห็นเทพบุตรโพธิสัตว์นั้น จึงถามว่า)
[100] ข้าพเจ้าได้กระทำอะไรไว้แก่เหล่าเทวดา
ข้าพเจ้าได้กระทำความชั่วอะไรไว้
จักรนี้จึงได้จรดที่ศีรษะแล้วพัดผันอยู่บนกระหม่อมของข้าพเจ้า

เชิงอรรถ :
1 ในอรรถกถาแปลว่า ด้วยวงศ์ตระกูล (ขุ.ชา.อ. 4/98/425)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :217 }