เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [4. จตุกกนิบาต] 5. จูฬกุณาลวรรค 3. กุนตินีชาดก (343)
(พญานกกุณาละเกิดเป็นปัญจาลจัณฑปุโรหิต นำเหตุที่ตนได้เห็นมาแสดงว่า)
[162] บัณฑิตเห็นเหตุคลายความกำหนัดของพญากินนร
และพญากินนรีแล้ว พึงทราบเถิดว่า
ผู้หญิงทั้งปวงไม่ยินดีในเรือนของสามี
เหมือนภรรยาได้ทอดทิ้งสามีคู่ชีวิตเช่นนั้นไป
เพราะพบชายอื่นแม้เป็นคนง่อยเปลี้ย
(พญานกกุณฑลิกะเกิดเป็นพระเจ้าพรหมทัต เมื่อจะแสดงเรื่องที่ตนได้ทราบ
มาแล้ว จึงกล่าวว่า)
[163] พระมเหสีของพระเจ้าพกะและพระเจ้าพาวรี
ผู้หมกมุ่นอยู่ในกามมากเกินไป
ได้เป็นชู้กับมหาดเล็กคนสนิทของพระนาง
มีหรือผู้หญิงทั้งหลายจะไม่พึงเป็นชู้กับชายอื่น
(พญานกกุณฑลิกะเกิดเป็นพระเจ้าพรหมทัต เมื่อจะแสดงเรื่องที่ตนเห็นมาเอง
จึงกล่าวว่า)
[164] พระนางปิงคิยานี อัครมเหสีผู้เป็นที่รัก
ของพระเจ้าพรหมทัตผู้เป็นใหญ่แห่งโลกทั้งมวล
ได้เป็นชู้กับคนเลี้ยงม้าผู้ใกล้ชิดพระนาง
พระนางเป็นผู้มักมากในกาม มิได้ประสบผลแม้ทั้ง 2 อย่าง1
กุณฑลิกชาดกที่ 1 จบ

2. วานรชาดก (342)
ว่าด้วยวานรโพธิสัตว์
(วานรโพธิสัตว์ได้กล่าวกับจระเข้ว่า)
[165] ข้าพเจ้าสามารถขึ้นจากน้ำมาบนบกได้
จระเข้ บัดนี้ข้าพเจ้าไม่ตกอยู่ในอำนาจของท่านอีกต่อไป

เชิงอรรถ :
1 คือ ไม่ได้พบคนเลี้ยงม้าและไม่ได้ครองตำแหน่งอัครมเหสี (ขุ.ชา.อ. 8/313/358)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :190 }