เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [4. จตุกกนิบาต] 3. กุฏิทูสกวรรค 9. กาฬพาหุชาดก (329)
8. อนนุโสจิยชาดก (328)
ว่าด้วยทุกคนไม่ควรเศร้าโศก
(พระโพธิสัตว์แสดงธรรมแก่มหาชนว่า)
[109] ตาปสินีผู้เจริญไปอยู่ในหมู่ชนเป็นจำนวนมากที่ตายแล้ว
นางผู้อยู่ร่วมกับพวกคนตายเหล่านั้นจะมีประโยชน์อะไรแก่เรา
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่เศร้าโศกถึง
นางสัมมิลลหาสินีตาปสินีผู้เป็นที่รัก
[110] ถ้าบุคคลจะพึงเศร้าโศกถึงความตายที่ไม่มีแก่สัตว์ผู้เศร้าโศก
ควรเศร้าโศกถึงตนผู้ตกอยู่ในอำนาจของมัจจุทุกเมื่อเถิด
[111] อายุสังขารจะติดตามสัตว์ผู้ยืน นั่ง นอน
และเดินไปมาเท่านั้นก็หาไม่
วัยย่อมติดตามเหล่าสัตว์แม้กระทั่งลืมตาและหลับตา
[112] เมื่อความพลัดพรากมีอยู่อย่างไม่ต้องสงสัย
ในอัตภาพที่เต็มไปด้วยอันตรายนี้อย่างนี้
บุคคลควรเอ็นดูสัตว์ที่ยังเป็นอยู่ยังเหลืออยู่
ไม่ควรเศร้าโศกถึงสัตว์ที่ตายไปแล้ว
อนนุโสจิยชาดกที่ 8 จบ

9. กาฬพาหุชาดก (329)
ว่าด้วยลิงชื่อกาฬพาหุ
(นกแขกเต้าโปฏฐปาทะกล่าวกับนกแขกเต้าราธโพธิสัตว์ผู้เป็นพี่ชายว่า)
[113] เมื่อก่อน เราได้ข้าวและน้ำใดจากราชสำนัก
บัดนี้ ข้าวและน้ำนั้นไปหาลิง1เท่านั้น พี่ราธะ
เรากลับไปป่ากันเถิด เพราะพระเจ้าธนัญชัยไม่สักการะเราแล้ว

เชิงอรรถ :
1 แปลถอดความจากคำบาลีว่า สาขมิค แปลว่า เนื้อที่อยู่บนกิ่งไม้

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :179 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [4. จตุกกนิบาต] 4. โกกิลวรรค 1. โกกิลชาดก (331)
(นกราธโพธิสัตว์ได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[114] น้องโปฏฐปาทะเอ๋ย โลกธรรมในหมู่มนุษย์เหล่านี้
คือ ความมีลาภ ไม่มีลาภ มียศ ไม่มียศ
นินทา สรรเสริญ สุข และทุกข์ เป็นของไม่เที่ยง
เจ้าอย่าเศร้าโศกไปเลย จะเศร้าโศกไปทำไม
(นกโปฏฐปาทะกล่าวว่า)
[115] พี่ราธะ พี่เป็นบัณฑิตแแท้ ๆ ย่อมรู้ประโยชน์ที่ยังไม่มาถึง
ทำอย่างไร เราจะเห็นลิงชั่วถูกไล่ออกจากราชตระกูล
(นกราธโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[116] ลิงกาฬพาหุกระดิกหู กลอกหน้ากลอกตา
ทำให้พระราชกุมารหวาดกลัวอยู่บ่อย ๆ
มันจะทำตนเองให้อดข้าวและน้ำ1
กาฬพาหุชาดกที่ 9 จบ

10. สีลวีมังสชาดก (330)
ว่าด้วยการพิจารณาอานิสงส์ของศีล
(ปุโรหิตโพธิสัตว์ยืนอยู่ในที่ใกล้พระราชา ได้พรรณนาศีลด้วยคาถานี้ว่า)
[117] ได้ยินว่า ศีลเป็นสิ่งดีงาม ศีลเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมในโลก
ดูเถิด นาคที่มีพิษร้ายแรงยังไม่เบียดเบียนใคร ๆ
เพราะสำนึกอยู่ว่าตนมีศีล
(พระโพธิสัตว์เห็นโทษของกามแล้ว จึงกล่าวว่า)
[118] ตราบใด เหยี่ยวนั้นยังคาบชิ้นเนื้อใด ๆ อยู่
ตราบนั้น เหยี่ยวทั้งหลายในโลกก็พากันรุมจิกตีกัน
แต่พวกมันจะไม่เบียดเบียนเหยี่ยวที่ไม่มีความกังวล

เชิงอรรถ :
1 แปลถอดความจากคำบาลีว่า เยนารกา ฐสฺสติ อนฺนปานา แปลว่า อยู่ห่างไกลจากข้าวและน้ำ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :180 }