เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [4. จตุกกนิบาต] 2. ปุจิมันทวรรค 9. ติตติรชาดก (319)
(นักฟ้อนกล่าวว่า)
[71] นางสามายังไม่ตายเลย และไม่ต้องการชายอื่น ได้ข่าวว่า
นางสามากินอาหารมื้อเดียว ยังต้องการแต่ท่านเท่านั้น
(โจรโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[72] นางสามาได้เปลี่ยนเอาเราผู้ไม่เคยเชยชิด
กับชายผู้เคยเชยชิดกันมานาน
นางสามาคงจะเปลี่ยนเอาชายอื่นผู้ไม่ใช่ขาประจำ
กับเราผู้เป็นขาประจำแน่นอน เราจะไปจากที่นี้ให้ไกลแสนไกล
กณเวรชาดกที่ 8 จบ

9. ติตติรชาดก (319)
ว่าด้วยนกกระทา
(นกกระทาถามดาบสโพธิสัตว์ว่า)
[73] พระคุณเจ้าผู้เจริญ ข้าพเจ้าอยู่สบายดี
และได้บริโภคอาหารตามชอบใจ ข้าพเจ้ากำลังอยู่ในอันตราย
คติของข้าพเจ้าจะเป็นอย่างไรหนอ
(ดาบสโพธิสัตว์ตอบปัญหาของนกกระทาว่า)
[74] ปักษี ถ้าใจของเธอไม่น้อมไปเพื่อกรรมชั่ว
บาปก็ไม่แปดเปื้อนเธอผู้เป็นคนดี
ไม่ขวนขวายในการกระทำกรรมชั่ว
(นกกระทาได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[75] นกกระทาจำนวนมากมาด้วยเข้าใจว่า
ญาติของพวกเราจับอยู่ที่นี้
ย่อมประสบเคราะห์กรรมเพราะอาศัยข้าพเจ้า
ใจข้าพเจ้ารังเกียจในกรรมชั่วนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :171 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [4. จตุกกนิบาต] 3. กุฏิทูสกวรรค 1. กุฏิทูสกชาดก (321)
(ดาบสโพธิสัตว์จึงกล่าวว่า)
[76] ถ้าใจของเธอไม่ถูกกรรมชั่วประทุษร้าย
กรรมชั่วที่นายพรานทำเพราะอาศัยเธอ ก็ไม่ถูกต้องเธอ
บาปก็ไม่แปดเปื้อนเธอผู้เป็นคนดี ผู้ขวนขวายน้อย
ติตติรชาดกที่ 9 จบ

10. สุจจชชาดก (320)
ว่าด้วยพระราชาไม่ทรงสละสิ่งที่สละได้ง่าย
(พระราชเทวีตรัสกับอำมาตย์ว่า)
[77] พระราชาเมื่อไม่พระราชทานภูเขาด้วยเพียงพระวาจา
ชื่อว่าไม่ทรงสละสิ่งที่ควรสละได้ง่ายหนอ
ก็เมื่อพระองค์ไม่ทรงสละสิ่งนั้น ฉันจะพึงให้อะไร
พระราชาไม่พระราชทานภูเขาด้วยพระวาจา
(พระราชาตรัสว่า)
[78] งานใดควรทำ พึงพูดถึงแต่งานนั้นเถิด
งานใดไม่ควรทำ ก็อย่าพูดถึงงานนั้นเลย
คนไม่ทำ เอาแต่พูด บัณฑิตย่อมรู้ทัน
(พระราชเทวีกราบทูลว่า)
[79] ข้าแต่ราชบุตร ขอความนอบน้อมจงมีแด่พระองค์
พระองค์ดำรงอยู่ในสัจจธรรม
ถึงแม้จะถูกเนรเทศ
ก็ยังมีพระหฤทัยยินดีในสัจจธรรม
(อำมาตย์โพธิสัตว์ได้ฟังพระเสาวนีย์ของพระเทวีผู้ตรัสคุณความดีของพระราชา
อยู่อย่างนั้น จึงประกาศคุณความดีของพระราชเทวีว่า)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :172 }