เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 5. อัตถกามวรรค 1. โลสกชาดก (41)
10. ขทิรังคารชาดก (40)
ว่าด้วยหลุมถ่านเพลิงไม้ตะเคียน
(เศรษฐีโพธิสัตว์เมื่อจะให้มารผู้ประสงค์จะทำลายชีวิตพระปัจเจกพุทธเจ้า และ
ทำลายโรงทานทราบว่า ตัวท่านหรือมารมีกำลังมีอานุภาพมากกว่ากัน จึงกล่าว
คาถานี้กับพระปัจเจกพุทธเจ้าว่า)
[40] ข้าพเจ้าจะตกหลุมถ่านเพลิงมีเท้าชี้ขึ้น มีศีรษะปักลงก็ตามที
ข้าพเจ้าจะไม่ทำความชั่วอันเป็นกรรมไม่ประเสริฐอีก
ขอนิมนต์พระคุณเจ้ารับบิณฑบาตนี้เถิด
ขทิรังคารชาดกที่ 10 จบ
กุลาวกวรรคที่ 4 จบ

รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ
1. กุลาวกชาดก 2. นัจจชาดก
3. สัมโมทมานชาดก 4. มัจฉชาดก
5. วัฏฏกชาดก 6. สกุณชาดก
7. ติตติรชาดก 8. พกชาดก
9. นันทชาดก 10. ขทิรังคารชาดก
5. อัตถกามวรรค
หมวดว่าด้วยผู้ใคร่ประโยชน์
1. โลสกชาดก (41)
ว่าด้วยคนโลเลต้องเศร้าโศก
(พระโพธิสัตว์เล่าเรื่องนายมิตตวินทุกะที่ไม่ทำตามคำสอนของผู้หวังความเจริญ
จึงได้รับทุกข์แล้ว ได้กล่าวว่า)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :17 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 5. อัตถกามวรรค 3. เวฬุกชาดก (43)
[41] ผู้ใดที่คนอื่นผู้มีจิตเกื้อกูล อ่อนโยน กล่าวสอนอยู่
ไม่กระทำตามคำสอนของบุคคลผู้หวังความเจริญ
ผู้อนุเคราะห์ด้วยเหตุอันเป็นประโยชน์
ผู้นั้นย่อมเศร้าโศก เหมือนมิตตวินทุกะจับขาแพะแล้วเศร้าโศกอยู่
โลสกชาดกที่ 1 จบ

2. กโปตกชาดก (42)
ว่าด้วยนกพิราบเตือนกา
(นกพิราบโพธิสัตว์เห็นกาประสบความพินาศ จึงกล่าวว่า)
[42] ผู้ใดอันบุคคลผู้หวังความเจริญ
อนุเคราะห์ด้วยประโยชน์เกื้อกูล
กล่าวสอนอยู่ ก็ไม่ทำตามคำสั่งสอน
ผู้นั้นย่อมเศร้าโศกอยู่ร่ำไป
เหมือนกาไม่ทำตามคำของนกพิราบตกอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู
กโปตกชาดกที่ 2 จบ

3. เวฬุกชาดก (43)
ว่าด้วยงูเวฬุกะ
(ดาบสโพธิสัตว์สั่งให้ทำการเผาดาบสที่ถูกงูกัดตายแล้ว จึงกล่าวสอนหมู่ฤๅษีว่า)
[43] ผู้ใดที่คนอื่นผู้มีจิตเกื้อกูล อ่อนโยน กล่าวสอนอยู่
ไม่กระทำตามคำสอนของบุคคลผู้หวังความเจริญ
ผู้อนุเคราะห์ด้วยเหตุอันเป็นประโยชน์
ผู้นั้นย่อมถูกกำจัดนอนตายอยู่ เหมือนฤๅษีผู้เป็นบิดาของงูเวฬุกะ1
เวฬุกชาดกที่ 3 จบ

เชิงอรรถ :
1 คำว่า เวฬุก เป็นชื่อของไม้ไผ่ งูที่ได้ชื่อว่า เวฬุกะ เพราะนอนอยู่ในปล้องไม้ไผ่ (ขุ.ชา.อ. 2/43/14)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :18 }