เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 4. กุลาวกวรรค 9. นันทชาดก (39)
[37] นรชนเหล่าใดฉลาดในธรรม1
ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อบุคคลผู้เจริญ2ทั้งหลาย
นรชนเหล่านั้นเป็นผู้ได้รับการสรรเสริญในปัจจุบัน
และมีสุคติภพในเบื้องหน้า
ติตติรชาดกที่ 7 จบ

8. พกชาดก (38)
ว่าด้วยนกยาง
(รุกขเทวดาโพธิสัตว์สถิตอยู่ที่ต้นกุ่ม ได้เห็นเหตุอัศจรรย์ที่นกยางถูกปูหนีบ
คอจมน้ำตาย เมื่อจะให้สาธุการ จึงกล่าวว่า)
[38] ผู้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงผู้อื่น
จะพบความสุขอยู่ได้ไม่นาน
ผู้ใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงผู้อื่นนั้น
ต้องประสบบาปกรรมที่ตนทำไว้
เหมือนนกยางที่ถูกปูหนีบตาย
พกชาดกที่ 8 จบ

9. นันทชาดก (39)
ว่าด้วยนายนันททาส
(กุฎุมพีโพธิสัตว์เมื่อจะบอกขุมทรัพย์แก่กุมารผู้เป็นลูกของเพื่อน จึงกล่าวว่า)
[39] ทาสชื่อนันทะ เกิดจากนางทาสี ยืนพูดคำหยาบอยู่ที่ใด
เรารู้ว่ามีกองรัตนะและมาลัยทองอยู่ที่นั้น
นันทชาดกที่ 9 จบ

เชิงอรรถ :
1 ธรรม ในที่นี้หมายถึงความประพฤติยำเกรงต่อบุคคลผู้เจริญ (ขุ.ชา.อ. 1/37/301)
2 ผู้เจริญมี 3 ประเภท คือ ( 1) เจริญโดยชาติ (2) เจริญโดยวัย (3) เจริญโดยคุณ (ขุ.ชา.อ. 1/37/301)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :16 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 5. อัตถกามวรรค 1. โลสกชาดก (41)
10. ขทิรังคารชาดก (40)
ว่าด้วยหลุมถ่านเพลิงไม้ตะเคียน
(เศรษฐีโพธิสัตว์เมื่อจะให้มารผู้ประสงค์จะทำลายชีวิตพระปัจเจกพุทธเจ้า และ
ทำลายโรงทานทราบว่า ตัวท่านหรือมารมีกำลังมีอานุภาพมากกว่ากัน จึงกล่าว
คาถานี้กับพระปัจเจกพุทธเจ้าว่า)
[40] ข้าพเจ้าจะตกหลุมถ่านเพลิงมีเท้าชี้ขึ้น มีศีรษะปักลงก็ตามที
ข้าพเจ้าจะไม่ทำความชั่วอันเป็นกรรมไม่ประเสริฐอีก
ขอนิมนต์พระคุณเจ้ารับบิณฑบาตนี้เถิด
ขทิรังคารชาดกที่ 10 จบ
กุลาวกวรรคที่ 4 จบ

รวมชาดกที่มีในวรรคนี้ คือ
1. กุลาวกชาดก 2. นัจจชาดก
3. สัมโมทมานชาดก 4. มัจฉชาดก
5. วัฏฏกชาดก 6. สกุณชาดก
7. ติตติรชาดก 8. พกชาดก
9. นันทชาดก 10. ขทิรังคารชาดก
5. อัตถกามวรรค
หมวดว่าด้วยผู้ใคร่ประโยชน์
1. โลสกชาดก (41)
ว่าด้วยคนโลเลต้องเศร้าโศก
(พระโพธิสัตว์เล่าเรื่องนายมิตตวินทุกะที่ไม่ทำตามคำสอนของผู้หวังความเจริญ
จึงได้รับทุกข์แล้ว ได้กล่าวว่า)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :17 }