เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [3. ติกนิบาต] 5. กุมภวรรค 9. โกมาริยปุตตชาดก (299)
(ลิงเล็ก ๆ เชื่อแล้วไป แต่ไม่ได้อะไร จึงกลับมาพบลิงใหญ่แล้วคิดจะลวงลิง
ใหญ่นั้นบ้าง จึงกล่าวว่า)
[143] ผู้ใดอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่
ผู้นั้นย่อมเป็นผู้อิ่มหนำสำราญ
เหมือนข้าพเจ้าได้กินผลไม้สุกจนอิ่มหนำสำราญในวันนี้
(ลิงใหญ่ได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[144] ลิงลวงลิงป่าเพราะเหตุใด
เหตุนั้นลิงหนุ่มก็ไม่ควรเชื่อ ถึงลิงแก่เฒ่าก็ไม่ควรเชื่อ
อุทุมพรชาดกที่ 8 จบ

9. โกมาริยปุตตชาดก (299)
ว่าด้วยลิงอ้างโกมาริยบุตรเป็นอาจารย์
(ดาบสเหล่านั้นเมื่อจะถามลิง ได้กล่าวว่า)
[145] เมื่อก่อน เจ้าได้โลดเต้นเล่นคะนอง
ในสำนักของพวกเราผู้มีปกติเล่นคะนอง
ลิงเอ๋ย เจ้ามาทำกิริยาของลิงในอาศรมของพวกเราอีก
พวกเราไม่พอใจปกติของเจ้านั้นเลย
(ลิงได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[146] เพราะฌานอันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้ว
จากสำนักอาจารย์ชื่อโกมาริยบุตรผู้เป็นพหูสูต1
บัดนี้ ท่านอย่าได้สำคัญข้าพเจ้าเหมือนเมื่อก่อนเลย
ผู้มีอายุ ข้าพเจ้าบำเพ็ญฌานอยู่

เชิงอรรถ :
1 ผู้เป็นพหูสูต ในที่นี้หมายถึงผู้ได้ยินได้ฟังและแทงตลอดกสิณบริกรรมเป็นอันมาก และสมาบัติ 8 (ขุ.ชา.อ.
4/146/193)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :153 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [3. ติกนิบาต] รวมวรรคที่มีในนิบาตนี้
(ดาบสเหล่านั้นกล่าวว่า)
[147] แม้ถ้าบุคคลจะพึงหว่านพืชลงบนแผ่นหิน
และฝนจะพึงตกลงมาก็ตามที
พืชนั้นจะพึงงอกขึ้นมาหาได้ไม่
เจ้าลิงเอ๋ย จริงอยู่ ฌานอันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง
ถึงเจ้าจะได้สดับมาแล้ว
เจ้าก็ยังอยู่ห่างไกลภูมิฌานนั่นอยู่ดี
โกมาริยปุตตชาดกที่ 9 จบ

10. วกชาดก (300)
ว่าด้วยหมาใน
(พระศาสดาตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า)
[148] หมาในมีเนื้อและเลือดเป็นอาหาร
มีชีวิตอยู่ได้เพราะฆ่าสัตว์อื่น
สมาทานวัตรแล้วเข้าจำอุโบสถ
[149] ท้าวสักกะทรงทราบถึงข้อปฏิบัติของหมาในนั้นแล้ว
ทรงจำแลงเพศเป็นแพะเข้าไปหา
หมาในนั้นต้องการจะดื่มเลือดจึงตบะแตก
โผเข้าไปหาแพะนั้น
ทำลายตบะที่ตนได้สมาทานแล้ว
[150] บุคคลบางคนในโลกนี้ก็เหมือนกัน
สมาทานข้อปฏิบัติอย่างเพลา ทำตนกลับกลอก
เหมือนหมาในกลับกลอกเพราะแพะเป็นเหตุ
วกชาดกที่ 10 จบ
กุมภวรรคที่ 5 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :154 }