เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [3. ติกนิบาต] 5. กุมภวรรค 4. ชัมพุขาทกชาดก (294)
[126] ข้าพระองค์เป็นทูตของกาเหล่านั้น
ถูกพญากาส่งมา จึงได้มา ณ ที่นี้
ข้าพระองค์จะกระทำความจงรักภักดีต่อเจ้านาย
จึงได้จิกจมูกคนเชิญเครื่องเสวยให้เป็นแผล
สุปัตตชาดกที่ 2 จบ

3. กายนิพพินทชาดก (293)
ว่าด้วยความเบื่อหน่ายร่างกาย
(ฤๅษีโพธิสัตว์เมื่อจะเปล่งอุทาน จึงกล่าวว่า)
[127] เมื่อเราถูกโรคภัยอย่างใดอย่างหนึ่งเบียดเบียนอยู่
ได้รับทุกข์อย่างแรงกล้า
ร่างกายนี้จักซูบซีดโดยฉับพลัน
เหมือนดอกไม้ตกอยู่ที่ทรายกลางแดด
[128] ร่างกายอันไม่น่าพอใจกลับเป็นสิ่งที่น่าพอใจ
ไม่สะอาดกลับเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่สะอาด
เต็มไปด้วยซากศพนานาชนิด
ปรากฏเป็นที่น่าพอใจแก่ผู้ไม่เห็นความจริง
[129] น่าติเตียนนัก ร่างกายอันเปื่อยเน่า กระสับกระส่าย
น่าเกลียด ไม่สะอาด มีความเจ็บป่วยเป็นธรรมดา
ที่หมู่สัตว์พากันมัวเมาหมกมุ่นอยู่
แล้วทำทางที่จะเข้าถึงสุคติให้เสื่อม
กายนิพพินทชาดกที่ 3 จบ

4. ชัมพุขาทกชาดก (294)
ว่าด้วยสุนัขจิ้งจอกอยากกินลูกหว้า
(สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งต้องการจะลวงกากินลูกหว้าแสร้งสรรเสริญกาว่า)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :149 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [3. ติกนิบาต] 5. กุมภวรรค 6. สมุททชาดก (296)
[130] ใครนั่นมีเสียงหยดย้อยยอดเยี่ยม
กว่าสัตว์ที่มีเสียงไพเราะทั้งหลาย จับอยู่ที่กิ่งต้นหว้า
เจรจาด้วยสำเนียงอันน่าพอใจ คล้ายลูกนกยูง
(กาสรรเสริญตอบสุนัขจิ้งจอกว่า)
[131] กุลบุตรรู้จักสรรเสริญกุลบุตรด้วยกัน
นี่ท่านผู้มีผิวพรรณเช่นกับลูกเสือโคร่ง
เชิญท่านบริโภคเถิดเพื่อน
เราจะให้ลูกหว้าสุกแก่ท่าน
(เทวดาโพธิสัตว์เห็นกากับสุนัขจิ้งจอกกล่าวยกย่องกันตามที่ไม่เป็นจริง จึง
กล่าวว่า)
[132] เราเห็นมานานแล้ว
คนที่มาประชุมกันพูดเท็จ สรรเสริญกันเอง
คือ กากินอาหารที่เขาคายแล้วและสุนัขจิ้งจอกกินซากศพ
ชัมพุขาทกชาดกที่ 4 จบ

5. อันตชาดก (295)
ว่าด้วยที่สุด 3 อย่าง
(กาตัวหนึ่งต้องการจะลวงสุนัขจิ้งจอกกินเนื้อ จึงกล่าวว่า)
[133] พญาเนื้อ ลำตัวของท่านเหมือนพญาโคอุสภะ
การเยื้องกรายของท่านดุจพญาราชสีห์
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมท่าน ข้าพเจ้าจะได้อะไรบ้างเล่า
(สุนัขจิ้งจอกได้ฟังดังนั้น จึงกล่าวว่า)
[134] กุลบุตรรู้จักสรรเสริญกุลบุตรด้วยกัน
นี่พ่อกาผู้มีสร้อยคองามเหมือนนกยูง
เชิญท่านลงจากต้นละหุ่งเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :150 }