เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [3. ติกนิบาต] 3. อุทปานวรรค 6. กุรุธัมมชาดก (276)
4. โลลชาดก (274)
ว่าด้วยโทษของความโลเล
(นกพิราบโพธิสัตว์เห็นกานั้นทอดถอนใจอยู่ เมื่อจะล้อเล่น จึงกล่าวว่า)
[70] นกยางอะไรนี่มีหงอน เป็นโจร มีเมฆเป็นปู่1
แม่นกยาง เจ้าจงลงมาข้างล่างนี้เถิด
กาสหายของเราเป็นสัตว์ดุร้าย
(กาได้ฟังดังนั้น จึงตอบว่า)
[71] เรามิใช่นกยางมีหงอนหรอก
เราเป็นกาโลเล ไม่เชื่อฟังคำของท่าน
ท่านจงมาดูเถิด เรากลายเป็นกามีขนเกรียนไปแล้ว
(พระโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[72] เพื่อนเอ๋ย เจ้าจักประสบความชั่วร้ายเช่นนี้อีก
เพราะปกติของเจ้าเป็นเช่นนั้น
อาหารของมนุษย์เป็นของที่นกไม่ควรกิน
โลลชาดกที่ 4 จบ

5. รุจิรชาดก (275)
ว่าด้วยเรื่องนกกาที่น่ารัก
(พระโพธิสัตว์กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า)
[73] นกยางตัวนี้ช่างน่ารักเสียนี่กระไร
มาอาศัยอยู่ในรังกา
นั่นเป็นรังของกาดุร้ายสหายของเรา

เชิงอรรถ :
1 มีก้อนเมฆเป็นปู่ ในที่นี้หมายถึงนกยางทั้งหลายจะตั้งครรภ์ (มีไข่) ได้ ต้องได้ยินเสียงเมฆครางกระหึ่ม
เสียก่อน จึงตั้งครรภ์ได้ (ดู อธิบาย วิ.อ. 1/222-223) นี้เป็นธรรมดาของนกยาง (ขุ.ชา.อ. 4/70/98)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :136 }