เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 4. กุลาวกวรรค 1. กุลาวกชาดก (31)
[30] เธออย่าปรารถนาเป็นอย่างหมูมุนิกะเลย
หมูมุนิกะกินอาหารอันเป็นเหตุให้เดือดร้อน
เธอจงเป็นผู้ขวนขวายน้อย กินข้าวลีบเถิด
การกินข้าวลีบนี้เป็นเหตุให้มีอายุยืน
มุนิกชาดกที่ 10 จบ
กุรุงควรรคที่ 3 จบ

รวมชาดกที่มีในวรรคนี้คือ
1. กุรุงคมิคชาดก 2. กุกกุรชาดก/r
3. โภชาชานียชาดก 4. อาชัญญชาดก/r
5. ติตถชาดก 6. มหิฬามุขชาดก/r
7. อภิณหชาดก 8. นันทิวิสาลชาดก/r
9. กัณหชาดก 10. มุนิกชาดก/r

4. กุลาวกวรรค
หมวดว่าด้วยลูกนกครุฑ
1. กุลาวกชาดก (31)
ว่าด้วยลูกนกครุฑ
(ท้าวสักกะโพธิสัตว์ยอมสละชีวิตให้พวกอสูร ตรัสสั่งให้มาตลีเทพสารถีหันรถ
กลับเพราะกลัวลูกนกจะตายว่า)
[31] มาตลีเทพบุตร ที่ต้นงิ้วมีลูกนกครุฑอยู่
เธอจงหันงอนรถกลับ เราประสงค์จะสละชีวิตให้พวกอสูร
ลูกนกพวกนี้อย่าได้แหลกลาญเลย
กุลาวกชาดกที่ 1 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :13 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [1. เอกกนิบาต] 4. กุลาวกวรรค 4. มัจฉชาดก (34)
2. นัจจชาดก (32)
ว่าด้วยนกยูงรำแพน
(พญาหงส์ทองไม่ยอมยกลูกสาวให้นกยูงที่ขาดหิริและโอตตัปปะ จึงกล่าวคาถา
นี้ในท่ามกลางฝูงนกว่า)
[32] เสียงของเธอช่างไพเราะจับใจ แผ่นหลังก็สวยงาม
สร้อยคอก็เปรียบประดุจดังสีแก้วไพฑูรย์ และกำหางก็ยาวตั้งวา
เราจะไม่ให้ลูกสาวแก่เธอ เพราะการรำแพนหางร่ายรำ
นัจจชาดกที่ 2 จบ

3. สัมโมทมานชาดก (33)
ว่าด้วยความร่าเริงบันเทิงใจ
(นายพรานนกจับนกกระจาบไม่ได้ถูกภรรยาต่อว่า จึงกล่าวว่า)
[33] นกกระจาบทั้งหลายร่าเริงบันเทิงใจ
ช่วยกันบินพาเอาข่ายไปได้
เมื่อใดพวกมันทะเลาะกัน
เมื่อนั้นพวกมันจักมาสู่เงื้อมมือของเรา
สัมโมทมานชาดกที่ 3 จบ

4. มัจฉชาดก (34)
ว่าด้วยพญาปลา
(พญาปลาติดข่ายกลัวภรรยาจะเข้าใจผิดและเบียดเบียนเอาจึงคร่ำครวญอยู่ จึง
กล่าวว่า)
[34] ความเย็น ความร้อน และการติดอยู่ในข่าย
ไม่ได้เบียดเบียนให้เราได้รับทุกข์
เหมือนเรื่องที่นางปลาเข้าใจเราว่า ไปยินดีนางปลาตัวอื่นเลย
มัจฉชาดกที่ 4 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :14 }