เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 10. สิงคาลวรรค 7. ปาทัญชลิชาดก (247)
[188] ได้ยินมาว่า คนที่ไม่ปรารถนาสิ่งที่ตนเห็นก็ดี
ปรารถนาสิ่งที่ตนไม่เห็นก็ดี
ข้าพเจ้าเข้าใจว่า ถึงเขาจะเที่ยวแสวงหาไปนานแสนนาน
ก็จะไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนาเลย
[189] คนย่อมไม่พอใจสิ่งที่ตนได้มา
และดูหมิ่นสิ่งที่ตนปรารถนาได้มาแล้ว
เพราะความปรารถนาซึ่งมีอารมณ์ไม่มีที่สิ้นสุด
ข้าพเจ้าขอกระทำการนอบน้อมท่านผู้ปราศจากความปรารถนา
วิคติจฉชาดกที่ 4 จบ

5. มูลปริยายชาดก (245)
ว่าด้วยทรงปราบภิกษุผู้ทะนงด้วยมูลปริยายสูตร
(อาจารย์ทิศาปาโมกข์โพธิสัตว์ถามปัญหากับพวกศิษย์แล้ว จึงกล่าวว่า)
[190] กาลเวลาย่อมกินเหล่าสัตว์ทั้งปวงพร้อมกับตัวเอง
ส่วนผู้ใดกินกาลเวลาได้1
ผู้นั้นชื่อว่าเผาตัณหาที่เผาเหล่าสัตว์ได้แล้ว
(พระโพธิสัตว์ติเตียนมาณพเหล่านั้นว่า)
[191] ศีรษะของนรชนปรากฏมีเป็นจำนวนมาก
และมีผมหนาปกคลุมจนถึงคอ
บรรดาคนเหล่านี้ ใครบ้างเล่าที่มีปัญญา
มูลปริยายชาดกที่ 5 จบ

เชิงอรรถ :
1 ผู้กินกาลเวลาได้ หมายถึงพระขีณาสพ เพราะทำกาลปฏิสนธิในคราวต่อไปให้สิ้น คือกลืนกินกาลเวลา
ด้วยอริยมรรค (ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก) (ขุ.ชา.อ. 3/190/261)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :116 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 10. สิงคาลวรรค 7. ปาทัญชลิชาดก (247)
6. พาโลวาทชาดก (246)
ว่าด้วยการโอวาทคนพาล
(กุฎุมพีผู้หนึ่งแกล้งฤๅษีโพธิสัตว์ จึงกล่าวกับพระโพธิสัตว์ว่า)
[192] บุคคลผู้ไม่สำรวมประหารสัตว์ก็ดี
เบียดเบียนสัตว์ก็ดี ฆ่าสัตว์ก็ดี แล้วให้ทาน
สมณะใดบริโภคอาหารเช่นนี้
สมณะนั้นย่อมแปดเปื้อนบาปด้วย
(พระโพธิสัตว์ฟังแล้ว จึงกล่าวว่า)
[193] บุคคลผู้ไม่สำรวมถึงจะฆ่าบุตรภรรยาแล้วให้ทานก็ตามที
ผู้มีปัญญาบริโภคอาหารนั้นก็ไม่แปดเปื้อนบาปเลย
พาโลวาทชาดกที่ 6 จบ

7. ปาทัญชลิชาดก (247)
ว่าด้วยปาทัญชลีราชกุมาร
(อำมาตย์โพธิสัตว์เข้าใจว่า พระราชกุมารเฉลียวฉลาด จึงกล่าวว่า)
[194] ปาทัญชลีราชกุมารมีพระปรีชา
ทรงรุ่งเรืองกว่าพวกเราทั้งหมดแน่นอน
พระองค์ทรงเห็นเหตุอื่นที่ยิ่งกว่านี้เป็นแน่
เพราะฉะนั้นจึงทรงเม้มพระโอษฐ์
(พระกุมารโง่เขลา กล่าวว่า)
[195] ปาทัญชลีราชกุมารพระองค์นี้
จะทรงทราบสิ่งที่เป็นธรรมหรือไม่เป็นธรรม
สิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ก็หาไม่
พระองค์ไม่ทรงทราบอะไรเลย
นอกจากการเม้มพระโอษฐ์เท่านั้น
ปาทัญชลิชาดกที่ 7 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :117 }