เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ชาดก [2. ทุกนิบาต] 7. พีรณถัมภกวรรค 10. ธัมมัทธชชาดก (220)
9. ครหิตชาดก (219)
ว่าด้วยผู้ครองเรือนถูกพญาวานรติเตียน
(พญาวานรโพธิสัตว์ได้กล่าวกับพวกวานรว่า)
[137] มนุษย์ทั้งหลายผู้มีปัญญาทราม ไม่เห็นอริยธรรม1
กล่าวกันอย่างนี้ว่า เงินของฉัน ทองของฉัน ทั้งคืนทั้งวัน
[138] ในเรือนหลังหนึ่งมีเจ้าของเรือนอยู่ 2 คน
ใน 2 คนนั้น คนหนึ่งไม่มีหนวด นมยาน
เกล้าผมมวย และเจาะหู ถูกซื้อมาด้วยทรัพย์เป็นจำนวนมาก
ชายเจ้าของเรือนนั้นพูดเสียดแทงชนนั้นตั้งแต่วันที่มาถึง
ครหิตชาดกที่ 9 จบ

10. ธัมมัทธชชาดก (220)
ว่าด้วยผู้มีธรรมเป็นธงชัย
(ท้าวสักกะตรัสถามปุโรหิตโพธิสัตว์ว่า)
[139] ท่านดูเหมือนอยู่เป็นสุข ท่านจากบ้านเมืองมาสู่ป่าแห้งแล้ง
นั่งเพ่งพินิจคิดอะไรอยู่ผู้เดียวที่โคนไม้ เหมือนคนกำพร้า
(ปุโรหิตโพธิสัตว์กล่าวว่า)
[140] ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข
ข้าพเจ้าจากบ้านเมืองมาสู่ป่าแห้งแล้ง
หวนระลึกถึงธรรมของสัตบุรุษ
นั่งพินิจคิดอยู่แต่ผู้เดียวที่โคนไม้ เหมือนคนกำพร้า
ธัมมัทธชชาดกที่ 10 จบ
พีรณถัมภกวรรคที่ 7 จบ

เชิงอรรถ :
1 อริยธรรม หมายถึงธรรมของพระอริยะทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าเป็นต้น ได้แก่ โลกุตตรธรรม 9 (คือ มรรค
4 ผล 4 นิพพาน 1) อันประเสริฐ ปราศจากโทษ (ขุ.ชา.อ. 3/137/186)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 27 หน้า :101 }