เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [1. อิตถีวิมาน] 4. มัญชิฏฐกวรรค 6. วิหารวิมาน
[723] ดิฉันเมื่ออยู่ในเมืองอันธกวินทะ
ได้ถวายน้ำข้าวปรุงด้วยผลพุทราอบด้วยน้ำมัน
แด่พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระอาทิตย์
[724] มีจิตเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคผู้ปฏิบัติตรง
ได้ถวายน้ำข้าวผสมด้วยดีปลี กระเทียม และรากผักชี
[725] การที่นารีผู้มีเรือนร่างงามทุกส่วนสัด สามีมองไม่เบื่อ
ได้ครองความเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าจักรพรรดินั้น
ยังไม่เทียบเท่าเสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายน้ำข้าวครั้งเดียว
[726] ทองคำ 100 แท่ง ม้า 100 ตัว
ราชรถเทียมด้วยม้าอัสดร 100 คัน
หญิงสาวประดับต่างหูแก้วมณี 100,000 นาง
ก็ยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 แห่งทานคือการถวายน้ำข้าวครั้งเดียว
[727] ช้างมาตังคะ 100 เชือก เกิดในป่าหิมพานต์
มีงางอนงาม ทรงพลังมาก มีสายคล้องคอทองคำ
ตกแต่งด้วยเครื่องลาดและเครื่องประดับที่วิจิตรบรรจงด้วยทองคำ
ก็ยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 ของการถวายน้ำข้าวครั้งเดียว
[728] การที่พระเจ้าจักรพรรดิได้ครอบครองทวีปทั้ง 4 ในโลกนี้นั้น
ก็ยังมีค่าไม่ถึงเสี้ยวที่ 16 แห่งการถวายน้ำข้าวครั้งเดียวนั้น
กัญชิกทายิกาวิมานที่ 5 จบ

6. วิหารวิมาน
ว่าด้วยวิมานที่เกิดขึ้นแก่หญิงผู้อนุโมทนาการถวายวิหาร
(พระอนุรุทธเถระถามเทพธิดาองค์หนึ่งว่า)
[729] เทพธิดา เธอมีผิวพรรณงามยิ่งนัก
เปล่งรัศมีสว่างไสวไปทั่วทุกทิศอยู่ ดุจดาวประกายพรึก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :84 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ [1. อิตถีวิมาน] 4. มัญชิฏฐกวรรค 6. วิหารวิมาน
[730] เมื่อเธอนั้นกำลังฟ้อนรำอยู่ เสียงทิพย์น่าฟัง น่ารื่นรมย์ใจ
ย่อมเปล่งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ทุกส่วนสัดของเธอ
[731] ทั้งกลิ่นทิพย์หอมระรื่นชื่นใจ
ก็ฟุ้งออกจากอวัยวะน้อยใหญ่ทุกส่วนสัดของเธอ
[732] เมื่อเธอสั่นไหวกายไปมา
เสียงเครื่องประดับที่ช้องผม(ของเธอ)ทุกส่วน
ก็เปล่งเสียงดังไพเราะ น่าฟัง ดังเสียงดนตรีเครื่องห้า
[733] อนึ่ง ต่างหูเพชรต้องลมสั่นไหว ก็ส่งเสียงดังไพเราะ
น่าฟัง ดังเสียงดนตรีเครื่องห้า
[734] แม้มาลัยบนศีรษะของเธอ มีกลิ่นหอมชื่นใจ
ก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทุกทิศ ดุจต้นอุโลก
[735] เธอสูดดมกลิ่นหอมนั้น ทั้งได้เห็นรูปอันมิใช่ของมนุษย์
เทพธิดา อาตมาถามแล้ว ขอเธอจงบอกเถิดว่า
นี้เป็นผลของกรรมอันใดเล่า
(เทพธิดานั้นตอบว่า)
[736] พระคุณเจ้าผู้เจริญ นางวิสาขามหาอุบาสิกา
สหายของดิฉันอยู่ในกรุงสาวัตถี
ได้จัดสร้างมหาวิหารถวายสงฆ์ ดิฉันได้เห็นอาคาร
และการบริจาคทรัพย์จำนวนมากอุทิศสงฆ์
เป็นที่พอใจของดิฉันเช่นนั้น จึงเลื่อมใสแล้วอนุโมทนาในบุญนั้น
[737] วิมานน่าอัศจรรย์ น่าทัศนา ซึ่งดิฉันได้มา
เพราะการอนุโมทนาอย่างเดียวเท่านั้น
วิมานนั้นล่องลอยไปได้โดยรอบ
ในรัศมี 16 โยชน์ด้วยบุญฤทธิ์ของดิฉัน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :85 }