พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [16. มหานิบาต] 1. สุเมธาเถรีคาถา
[514] นิพพานนี้ไม่แก่ ไม่ตาย
เป็นทางดำเนินถึงความไม่แก่และไม่ตาย
ไม่มีความเศร้าโศก
ไม่ถูกข้าศึกเบียดเบียน
ไม่พลาด ไม่มีภัย
ไม่มีความเดือดร้อน
[515] นิพพานนี้ พระอริยเจ้าเป็นจำนวนมากบรรลุแล้ว
อมตนิพพานนี้อันผู้พยายามโดยแยบคายพึงได้ในวันนี้นี่แหละ
แต่ผู้ไม่พยายามอาจหาได้ไม่
[516] เจ้าหญิงสุเมธาเมื่อไม่ทรงยินดีในสังขาร กราบทูลอย่างนี้
และเมื่อกำลังทรงเกลี้ยกล่อมพระเจ้าอนิกรัตอยู่
ก็ทรงโยนพระเกศาลงที่พื้นดิน
[517] พระเจ้าอนิกรัตเสด็จลุกขึ้น ประคองอัญชลี
ทูลอ้อนวอนพระชนกของพระนางว่า
โปรดทรงปลดปล่อยเจ้าหญิงสุเมธาให้ผนวชเถิด
เพราะว่าเจ้าหญิงทรงเห็นวิโมกข์และสัจธรรมแล้ว
[518] เจ้าหญิงสุเมธานั้นซึ่งพระชนกชนนีทรงปล่อยแล้ว
กลัวภัยคือความโศก
บวชแล้วเมื่อศึกษาอยู่
ก็ทำให้แจ้งอภิญญา 6 และอรหัตผลแล้ว
[519] นิพพานนั้นน่าอัศจรรย์ ไม่เคยมี
ได้มีแก่สุเมธาราชกัญญา
พระสุเมธาเถรีได้พยากรณ์วิธีที่ตนประพฤติแล้วในปุพเพนิวาสญาณ
เหมือนอย่างที่พยากรณ์ในเวลาใกล้ปรินิพพานว่า
พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [16. มหานิบาต] 1. สุเมธาเถรีคาถา
[520] เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าโกนาคมนะเสด็จอุบัติขึ้นใน
โลก เมื่อสร้างสังฆารามเสร็จใหม่ ๆ ข้าพเจ้าได้เป็นหญิง รวมกับ
เพื่อนกัน 3 คน1 ได้ถวายวิหารแด่สงฆ์
[521] พวกเราทั้ง 3 คนเกิดในเทวดา 10 ชาติบ้าง 100 ชาติบ้าง
1,000 ชาติบ้าง 10,000 ชาติบ้าง
ไม่จำต้องกล่าวถึงการเกิดในมนุษย์เลย
[522] พวกเรามีฤทธิ์มากในหมู่เทวดา
ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงฤทธิ์ในหมู่มนุษย์
เราเป็นมเหสีนารีรัตน์ของพระเจ้าจักรพรรดิผู้มีรัตนะ 7 ประการ
[523] การสร้างอารามถวายสงฆ์เป็นวิหารทานนั้น
เป็นเหตุเป็นแดนเกิด(แห่งทิพยสมบัติตามที่กล่าวมาแล้ว)
ข้อนั้นเป็นมูล และเป็นความเกษมในพระศาสนา
เป็นเหตุตั้งมั่น (พร้อมด้วยธรรมครั้งที่ 1)
ข้อนั้นเป็นนิพพานสำหรับข้าพเจ้าผู้ยินดีแล้วในธรรม
[524] ชนเหล่าใดเชื่อพระดำรัสของพระผู้มีพระภาค
ผู้มีพระปัญญาไม่ทราม
ชนเหล่านั้นย่อมกล่าวอย่างนี้ย่อมเบื่อหน่ายในภพ
ครั้นเบื่อหน่ายแล้ว ย่อมคลายกำหนัดดังนี้
มหานิบาต จบบริบูรณ์
เถรีคาถา จบบริบูรณ์
ในเถรีคาถานี้ มี 494 คาถา
และมีพระเถรีล้วนแต่เป็นผู้สิ้นอาสวะเกิน 100 รูป ฉะนี้แล
เชิงอรรถ :
1 คือ ธนัญชานี เขมา และข้าพเจ้า (สุเมธา) (ขุ.เถรี.อ. 520/363)