เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [13. วีสตินิบาต] 3. จาปาเถรีคาถา
(บิดากล่าวกับเราว่า)
[290] พ่อขอถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์
ผู้คงที่ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก ขอสมาทานศีล
ข้อนั้นจะเป็นประโยชน์แก่พ่อ
[291] เมื่อก่อน พ่อเป็นเผ่าพันธุ์แห่งพระพรหม
วันนี้ พ่อเป็นพราหมณ์ พ่อได้วิชชา 3 มีความสวัสดี
จบเวท และเป็นผู้ล้างบาปได้แล้ว

3. จาปาเถรีคาถา
ภาษิตของพระจาปาเถรี
(พระจาปาเถรีได้รวบรวมคาถาที่อุปกาชีวกและตนกล่าวด้วยการเปล่งอุทาน
ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
(อุปกาชีวกกล่าวว่า)
[292] เมื่อก่อน ตัวเรา(เป็นปริพาชก)ถือไม้เท้า
เดี๋ยวนี้ เรานั้นกลายเป็นพรานล่าเนื้อไปเสียแล้ว
ไม่อาจข้ามจากตัณหาและเปือกตมอันร้ายกาจ1
ไปสู่ฝั่งโน้นได้เลย
[293] เมื่อก่อน นางจาปาดูหมิ่นเราว่าเป็นคนมัวเมานัก
จึงกล่อมลูกเย้ยหยันเสียดสี
เราจะตัดความเกี่ยวข้องด้วยจาปาไปบวชเสีย
(เรากล่าวว่า)
[294] อย่าโกรธเลย ท่านมหาวีระ อย่าโกรธเลย ท่านมหามุนี
เพราะว่า ผู้ถูกความโกรธครอบงำแล้ว ไม่มีความบริสุทธิ์ดอก
แล้วตบะจะมีแต่ที่ไหนเล่า

เชิงอรรถ :
1 กาม (ความใคร่, ความกำหนัด) ทิฏฐิ (ความเห็นผิด) (ขุ.เถรี.อ. 292/285)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :603 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [13. วีสตินิบาต] 3. จาปาเถรีคาถา
(อุปกาชีวกกล่าวว่า)
[295] เราจะออกจากบ้านนาลา ใครจะอยู่ในบ้านนาลานี้ได้
เจ้าจะผูกเหล่าสมณะผู้เลี้ยงชีพโดยธรรมด้วยมารยาหญิงอยู่หรือ
(เรากล่าวว่า)
[296] มาสิ ท่านกาฬะ กลับมาเถิด
เชิญบริโภคกามเหมือนแต่ก่อน
ดิฉันและพวกญาติยอมอยู่ในอำนาจของท่าน
(อุปกาชีวกกล่าวว่า)
[297] จาปา เจ้ากล่าวคำอ่อนหวานเช่นใดแก่เรา
พึงเปล่งคำอ่อนหวานให้ยิ่งไปกว่านี้อีก 4 เท่า
คำอ่อนหวานนั้นจะพึงเป็นคำจับใจบุรุษ
ผู้ยินดีในเธอเท่านั้นดอกนะ
(เรากล่าวว่า)
[298] ท่านกาฬะ ดิฉันซึ่งสะสวย
มีเรือนร่างงามดังต้นคนทามีดอกบานสะพรั่งอยู่บนยอดเขา
ดังเครือทับทิมมีดอกบานแล้ว
ดังต้นแคฝอยมีดอกบานสะพรั่งภายในเกาะ
[299] มีร่างกายลูบไล้ด้วยจุรณแก่นจันทน์
นุ่งห่มผ้าแคว้นกาสีมีค่ามาก
เพราะเหตุไร ท่านจึงละทิ้งไปเสียเล่า
(อุปกาชีวกกล่าวว่า)
[300] เจ้าจะตามเบียดเบียนเราด้วยรูปที่ตกแต่ง
เหมือนอย่างพรานนกประสงค์จะตามเบียดเบียนนก
ไม่ได้ดอกนะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :604 }