เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [10. เอกาทสกนิบาต] 1. กีสาโคตมีเถรีคาถา
(พระปฏาจาราเถรีกล่าวว่า)
[218] เราเวลามีครรภ์แก่ใกล้คลอด
เดินทางไปยังไม่ทันถึงเรือนตน
ก็คลอดบุตรที่ระหว่างทาง พบสามีตาย
[219] บุตรทั้งสองก็ตาย สามีก็ตายเสียที่ระหว่างทาง
มารดาบิดา และพี่ชายของเราผู้กำพร้า
ถูกเผาอยู่บนเชิงตะกอนเดียวกัน
(พระกีสาโคตมีเถรีกล่าวว่า)
[220] เจ้า เมื่อสิ้นตระกูลแล้ว ตกเป็นคนกำพร้า
เสวยทุกข์หาประมาณมิได้
ก็แลน้ำตาของเจ้าไหลตลอดมาหลายพันชาติ
[221] เราเห็นเจ้าและเนื้อบุตรของเจ้า
ถูกสุนัขเป็นต้นกัดกินที่ท่ามกลางป่าช้า
เราพร้อมกับสามีมีตระกูลฉิบหายแล้ว
ถูกชนทั้งปวงติเตียนแล้วได้บรรลุอมตธรรม
[222] อริยมรรคมีองค์ 8 เป็นข้อปฏิบัติให้ถึงอมตธรรม
เราได้เจริญแล้ว
แม้นิพพานเราก็ทำให้แจ้งแล้ว
เราได้พบกระจกคือธรรมแล้ว
[223] ตัดลูกศรเสียได้ ปลงภาระได้แล้ว
กระทำกิจที่ควรทำเสร็จแล้ว
กีสาโคตมีเถรีผู้มีจิตหลุดพ้นดีแล้ว
ได้กล่าวเนื้อความนี้ไว้
เอกาทสกนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :591 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [11. ทวาทสกนิบาต] 1. อุปลวัณณาเถรีคาถา
11. ทวาทสกนิบาต
1. อุปลวัณณาเถรีคาถา
ภาษิตของพระอุบลวรรณาเถรี
(พระอุบลวรรณาเถรีอาศัยภาษิตที่โยมมารดาของพระคังคาตีริยเถระกล่าว จึง
ได้กล่าวภาษิตนี้ว่า)
[224] เรา 2 คน คือ มารดาและธิดามีสามีร่วมกัน
เรานั้นได้มีความสลดใจ ขนพองสยองเกล้าอย่างไม่เคยมี
[225] น่าติเตียนนัก กามทั้งหลายไม่สะอาด
มีกลิ่นเหม็น มีหนามมาก
ที่เรา 2 คน คือ มารดาและธิดา เป็นภริยาร่วมกัน
[226] เรานั้นเห็นโทษในกามทั้งหลาย
เห็นการออกจากกามโดยความปลอดโปร่ง
จึงออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตในกรุงราชคฤห์
(พระอุบลวรรณาเถรีได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[227] เราระลึกชาติก่อนได้ ทิพพจักขุ เจโตปริยญาณ
และโสตธาตุ เราชำระให้หมดจดแล้ว
[228] แม้ฤทธิ์เราทำให้แจ้งแล้ว
เราบรรลุความสิ้นอาสวะแล้ว
ทำอภิญญา 6 ให้แจ้งแล้ว
ได้ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
[229] เราเนรมิตรถเทียมด้วยม้า 4 ตัวด้วยฤทธิ์
มาถวายอภิวาทพระยุคลบาทของพระพุทธเจ้า
ผู้เป็นที่พึ่งของโลก ทรงพระสิริ แล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :592 }