เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [6. ฉักกนิบาต] 8. วิชยาเถรีคาถา
[171] อริยสัจ 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7
และมรรคมีองค์ 8 เพื่อบรรลุประโยชน์อันสูงสุด
[172] เราฟังคำของท่านแล้วได้ปฏิบัติตามที่ท่านพร่ำสอน
ในปฐมยามแห่งราตรีก็ระลึกชาติก่อนได้
[173] ในมัชฌิมยามแห่งราตรี ก็ชำระทิพยจักษุให้หมดจดได้
ในปัจฉิมยามแห่งราตรี ทำลายกองแห่งความมืดได้
[174] ในกาลนั้น เรามีความสุขซึ่งเกิดแต่ปีติแผ่ไปทั่วร่างกายอยู่
ในวันที่ 7 ก็ได้ทำลายกองแห่งความมืดได้แล้ว
จึงเหยียดเท้าออก
ฉักกนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :583 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [7. สัตตกนิบาต] 1. อุตตราเถรีคาถา
7. สัตตกนิบาต
1. อุตตราเถรีคาถา
ภาษิตของพระอุตตราเถรี
(พระปฏาจาราเถรีได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[175] มาณพทั้งหลายถือสากตำข้าว
ได้ทรัพย์มาเลี้ยงดูบุตรและภรรยา
[176] ท่านทั้งหลายจงพากเพียรในคำสอนของพระพุทธเจ้า
ที่กระทำแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง
จงรีบล้างเท้าแล้วนั่ง ณ ที่สมควร
[177] จงตั้งจิตให้แน่วแน่มีอารมณ์เดียวแล้ว
พิจารณาสังขารทั้งหลายโดยความเป็นของแปรปรวน
และโดยความเป็นของไม่ใช่ของตน
พระอุตตราเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[178] เราฟังคำพร่ำสอนของพระปฏาจาราเถรีนั้นแล้ว
ล้างเท้า เข้าไปนั่ง ณ ที่สมควร
[179] ในปฐมยามแห่งราตรีระลึกชาติก่อนได้แล้ว
ในมัชฌิมยามแห่งราตรีชำระทิพยจักขุให้หมดจดได้
[180] ในปัจฉิมยามแห่งราตรีทำลายกองแห่งความมืดได้แล้ว
ได้บรรลุวิชชา 3 จึงลุกจากอาสนะ ในภายหลัง
ได้ทำตามคำสอนของท่านแล้ว
[181] จะอยู่แวดล้อมท่าน
เหมือนเทวดาชั้นดาวดึงส์แวดล้อมท้าวสักกะผู้ไม่แพ้ในสงคราม
เราได้บรรลุวิชชา 3 เป็นผู้ไม่มีอาสวะ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :584 }