เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 12. จันทาเถรีคาถา
[119] ภิกษุณีเหล่านั้นฟังคำสั่งสอนของปฏาจาราเถรีนั้นแล้ว
ล้างเท้าเข้าไปนั่ง ณ ที่สมควร ได้ประกอบความสงบใจเนือง ๆ
กระทำตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
[120] ในปฐมยามแห่งราตรี พากันระลึกชาติก่อนได้
ในมัชฌิมยามแห่งราตรี ชำระทิพยจักษุให้หมดจดได้
ในปัจฉิมยามแห่งราตรี ทำลายกองแห่งความมืดได้
[121] ภิกษุณีเหล่านั้น พากันลุกขึ้นกราบเท้าพระเถรีพร้อมกับกล่าวว่า
พวกเราทำตามคำสอนของท่านแล้ว จะอยู่แวดล้อมท่าน
เหมือนเทวดาชั้นดาวดึงส์แวดล้อมท้าวสักกะผู้ชนะในสงคราม
พวกเราได้บรรลุวิชชา 3 แล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะ

12. จันทาเถรีคาถา
ภาษิตของพระจันทาเถรี
พระจันทาเถรี(ได้กล่าวภาษิตเหล่านี้ว่า)
[122] เมื่อก่อน เราเป็นคนเข็ญใจ และเป็นหญิงหม้ายไม่มีบุตร
ปราศจากญาติมิตร ไม่ได้ความบริบูรณ์ด้วยอาหารและผ้า
[123] ถือภาชนะและไม้เท้า เที่ยวขอทานจากตระกูลหนึ่งไปยังตระกูลหนึ่ง
ถูกความหนาวและความร้อนเบียดเบียน เที่ยวขอทานอยู่ถึง 7 ปี
[124] ต่อมาภายหลัง ได้พบปฏาจาราภิกษุณีผู้ได้ข้าวและน้ำอยู่เป็น
ประจำ จึงเข้าไปขอบวชเป็นบรรพชิต
[125] และพระปฏาจาราภิกษุณีนั้นก็ได้กรุณาบวชให้เรา
ต่อมาท่านก็สั่งสอนเราให้ประกอบในประโยชน์อย่างยิ่ง
[126] เราฟังคำของท่านแล้วได้ทำตามคำสอน
โอวาทของพระแม่เจ้าไม่เป็นโมฆะ
เราได้บรรลุวิชชา 3 แล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะ
ปัญจกนิบาต จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :575 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรีคาถา [6. ฉักกนิบาต] 1. ปัญจสตมัตตาเถรีคาถา
6. ฉักกนิบาต
1. ปัญจสตมัตตาเถรีคาถา
ภาษิตของพระปัญจสตมัตตาเถรี
(พระปฏาจาราเถรีกล่าวอบรมพระเถรี 500 รูป ทีละรูปว่า)
[127] ท่านไม่รู้ทางของสัตว์ใดผู้มาแล้วหรือไปแล้ว
เหตุไฉน ท่านจึงร้องไห้ถึงสัตว์ที่มาแล้วนั้นว่า บุตรของเรา
[128] ถึงท่านจะรู้ทางของเขาผู้มาแล้วหรือไปแล้ว
ก็ไม่ควรเศร้าโศกถึงเขาเลย
เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายย่อมมีอย่างนี้เป็นธรรมดา
[129] สัตว์ผู้ใคร ๆ มิได้เชื้อเชิญก็มาจากปรโลกนั้น
ใคร ๆ ยังมิได้อนุญาตก็ไปจากโลกนี้
เขามาจากที่ไหนกันแน่หนอ อยู่ได้ 2-3 วัน
แล้วก็ไปจากภพนี้สู่ภพอื่นก็มี จากภพนั้นไปสู่ภพอื่นก็มี
[130] เขาละไปแล้ว จะท่องเที่ยวไปโดยรูปร่างของมนุษย์
เขามาอย่างใด ก็ไปอย่างนั้น
ในเพราะเหตุนั้นจะร่ำไห้ไปทำไม
(พระเถรีประมาณ 500 รูป กล่าวทีละรูปด้วยภาษิตเหล่านี้ว่า)
[131] ท่านได้บรรเทาความโศกถึงบุตรของดิฉันซึ่งถูกความโศกครอบงำ
นับว่าได้ช่วยถอนลูกศรคือความโศกที่เห็นได้ยาก
ซึ่งเสียบที่หทัยของดิฉันขึ้นแล้วหนอ
[132] วันนี้ ดิฉันช่วยถอนลูกศรคือความโศกขึ้นได้แล้ว
หายอยาก ดับสนิทแล้ว
ขอถึงพระมุนีพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :576 }