เมนู

พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรคาถา [11. เอกาทสกนิบาต]1. สังกิจจเถรคาถา
11. เอกาทสกนิบาต
1. สังกิจจเถรคาถา
ภาษิตของพระสังกิจจเถระ
(อุบาสกคนหนึ่งต้องการบำรุงสังกิจจสามเณร จึงนิมนต์สามเณรให้อยู่ที่ใกล้
ด้วยคาถาว่า)
[597] พ่อสามเณร ป่าจะมีประโยชน์อะไรสำหรับท่าน
ในฤดูฝน ภูเขาชื่ออุชชุหานะนั่นเองไม่เป็นที่สบาย
ลมหัวด้วนก็พัดมาประจำ ท่านจะพึงพอใจหรือ
เพราะความสงัดเป็นที่ต้องการของผู้เจริญฌาน
(พระสังกิจจเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า)
[598] ในฤดูฝน ลมหัวด้วน ย่อมพัดพาเมฆหมอกไปได้ฉันใด
สัญญาที่ประกอบด้วยวิเวกก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ย่อมดึงจิตของอาตมาไปสู่ที่วิเวก
[599] กายคตาสติกรรมฐานที่ประกอบด้วยความคลายกำหนัด
ในร่างกาย เกิดขึ้นแก่อาตมาทันที เหมือนกาดำเกิดจากฟองไข่
เที่ยวอาศัยอยู่ในป่าช้า
[600] ภิกษุผู้ไม่มีคนอื่นคอยดูแลรักษา
และไม่คอยดูแลรักษาคนอื่น นั้นแล
ไม่มีความเยื่อใยในกามทั้งหลาย ย่อมอยู่เป็นสุข
[601] ภูเขาศิลาอันกว้างใหญ่ไพศาล
มีน้ำไหลใสสะอาด
มีฝูงค่างและฝูงเนื้อฟานคลาคล่ำ
ดารดาษไปด้วยน้ำและสาหร่ายเหล่านั้น
ย่อมทำให้อาตมารื่นรมย์ใจยิ่งนัก

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :443 }


พระสุตตันตปิฏก ขุททกนิกาย เถรคาถา [11. เอกาทสกนิบาต ]รวมเรื่องพระเถระที่มีในนิบาต
[602] ในเสนาสนะที่สงัดคือป่า ซอกเขา และถ้ำ
ที่สัตว์ร้ายอาศัยอยู่ อาตมาเคยอยู่มาแล้ว
[603] อาตมาไม่เคยดำริถึงสิ่งที่ไม่ดี ประกอบด้วยโทษเลยว่า
ขอสัตว์เหล่านี้จงถูกเบียดเบียน จงถูกฆ่า จงประสบทุกข์
[604] อาตมาได้ปรนนิบัติพระศาสดา
ได้ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
ปลงภาระที่หนักเสียได้
ถอนตัณหาที่นำไปสู่ภพได้ขาดแล้ว
[605] อาตมาออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเพื่อประโยชน์ใด
ประโยชน์นั้นอันเป็นที่สิ้นไปแห่งสังโยชน์ทั้งปวง
อาตมาก็ได้บรรลุแล้ว
[606] อาตมาไม่อยากตาย
ไม่อยากเป็นอยู่
แต่อาตมารอคอยเวลาอยู่
เหมือนลูกจ้างทำการงานคอยค่าจ้าง
[607] อาตมาไม่อยากตาย
ไม่อยากเป็นอยู่
แต่อาตมามีสติสัมปชัญญะอยู่เฉพาะหน้า
คอยเวลาอันควร
เอกาทสกนิบาต จบ

รวมเรื่องพระเถระที่มีในนิบาตนี้ คือ
รวมพระสังกิจจเถระผู้ทำกิจเสร็จแล้ว
ไม่มีอาสวะรูปเดียวเท่านั้น
และในเอกาทสกนิบาต มี 11 คาถา ฉะนี้แล

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :444 }