พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [7. สัตตกนิบาต] 1. สุนทรสมุททเถรคาถา
7. สัตตกนิบาต
1. สุนทรสมุททเถรคาถา
ภาษิตของพระสุนทรสมุทรเถระ
(พระสุนทรสมุทรเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า)
[459] หญิงแพศยาตกแต่งร่างกาย นุ่งผ้าสวยงาม
ทัดทรงดอกไม้ ลูบไล้ของหอม
มีเท้าย้อมด้วยสีแดงได้สวมเขียงเท้า ยืนอยู่
[460] นางได้ถอดเขียงเท้า ประนมมือไว้ข้างหน้า
พูดเล้าโลมเราด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวานว่า
[461] ท่านเป็นนักบวชที่ยังหนุ่มแน่น โปรดเชื่อฟังดิฉัน
จงบริโภคกามที่เป็นของมนุษย์
ดิฉันจะมอบทรัพย์สมบัติให้ท่าน
ดิฉันขอให้สัจจะแก่ท่าน
ถ้าท่านไม่เชื่อ จะให้ดิฉันนำไฟมาทำการสบถต่อท่านก็ได้
[462] เมื่อคราวที่เราทั้งสองแก่เฒ่าจนถือไม้เท้าจึงค่อยบวช
เมื่อเป็นเช่นนี้นับว่าได้ชัยชนะในโลกทั้ง 2
[463] เราเพราะเห็นหญิงแพศยาตกแต่งร่างกาย นุ่งผ้าสวยงาม
ประนมมืออ้อนวอน เหมือนบ่วงมัจจุราชที่วางดักไว้
[464] แต่นั้น โยนิโสมนสิการก็เกิดขึ้นแก่เรา
โทษก็ปรากฏ ความเบื่อหน่ายก็เกิดขึ้นพร้อม
[465] ต่อจากนั้น จิตของเราก็หลุดพ้น
ท่านจงเห็นธรรมว่าเป็นธรรมดีงาม
เราบรรลุวิชชา 3 ได้ทำตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [7. สัตตกนิบาต] 2. ลกุณฏกภัททิยเถรคาถา
2. ลกุณฏกภัททิยเถรคาถา
ภาษิตของพระลกุณฑกภัททิยเถระ
(พระลกุณฏกภัททิยเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ว่า)
[466] พระภัททิยภิกษุอยู่ในอัมพาฏการามอันสวยงาม
ใกล้ชัฏแห่งป่า ได้ถอนตัณหาพร้อมทั้งรากแล้ว
เป็นผู้งามด้วยคุณมีศีลเป็นต้น
เข้าฌานอยู่ในชัฏแห่งป่า
[467] ผู้มักบริโภคกามบางพวกยินดีด้วยเสียงตะโพน
เสียงพิณและเสียงบัณเฑาะว์
ส่วนเรายินดีในคำสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ที่โคนไม้
[468] หากพระพุทธเจ้าพึงประทานพรแก่เรา
และหากเราพึงได้รับพรนั้น
เราจะพึงรับกายคตาสติที่ชาวโลกทั้งมวลควรเจริญอยู่ประจำ
[469] เหล่าชนที่ดูหมิ่นรูปร่างเรา แต่ชมเสียงเรา
ชื่อว่ายังตกอยู่ภายใต้อำนาจฉันทราคะ ย่อมไม่รู้จักเรา
[470] คนโง่เขลาถูกกิเลสปิดกั้นไว้โดยรอบ
ไม่รู้ทั้งภายใน ไม่เห็นทั้งภายนอก
ย่อมถูกชักจูงไปตามกระแสเสียง
[471] แม้คนที่ไม่รู้ภายใน เห็นชัดแต่ภายนอก
ชื่อว่าเห็นแต่ผลภายนอก
ย่อมถูกชักจูงไปตามกระแสเสียง
[472] ส่วนคนที่มีความเห็นไม่ถูกปิดกั้น
รู้ชัดทั้งภายใน เห็นแจ้งทั้งภายนอก
ย่อมไม่ถูกชักจูงไปตามกระแสเสียง
