เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [6. ฉักกนิบาต]2. เตกิจฉกานิเถรคาถา
2. เตกิจฉกานิเถรคาถา
ภาษิตของพระเตกิจฉกานิเถระ
(มารกล่าวว่า)
[381] ข้าวเปลือกเขาเก็บไว้ในฉาง
ข้าวสาลีก็ยังอยู่ในลาน
ข้าพเจ้าไม่ได้ก้อนข้าว
บัดนี้ยังจะทำอย่างไร
(พระเตกิจฉกานิเถระกล่าวว่า)
[382] ท่านเลื่อมใสแล้ว
จงระลึกถึงพระพุทธเจ้า
ซึ่งมีพระคุณหาประมาณมิได้
จะเป็นผู้มีสรีระที่ปีติถูกต้องแล้วเบิกบานใจเนือง ๆ
[383] ท่านเลื่อมใสแล้ว
จงระลึกถึงพระธรรม
ซึ่งมีพระคุณหาประมาณมิได้
จะเป็นผู้มีสรีระที่ปีติถูกต้องแล้ว เบิกบานใจเนือง ๆ
[384] ท่านเลื่อมใสแล้ว
จงระลึกถึงพระสงฆ์
ซึ่งมีพระคุณหาประมาณมิได้
จะเป็นผู้มีสรีระที่ปีติถูกต้องแล้ว เบิกบานใจเนือง ๆ
(มารกล่าวว่า)
[385] ท่านอยู่กลางแจ้ง
ตลอดราตรีที่เย็น ซึ่งเป็นฤดูหนาวเหล่านี้
ท่านอย่าได้ถูกความหนาวรบกวน เบียดเบียนเลย
นิมนต์เข้าวิหารซึ่งมีบานประตูหน้าต่างมิดชิดเถิด

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :405 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [6. ฉักกนิบาต] 3. มหานาคเถรคาถา
(พระเตกิจฉกานิเถระกล่าวว่า)
[386] เราจะสัมผัสอัปปมัญญาทั้งสี่1
และจะมีความสุข อยู่ด้วยอัปปมัญญาเหล่านั้น
เราจะอยู่อย่างไม่หวั่นไหว
ไม่เดือดร้อน เพราะความหนาวอยู่

3. มหานาคเถรคาถา
ภาษิตของพระมหานาคเถระ
(พระมหานาคเถระได้กล่าว 6 คาถาไว้ดังนี้ว่า)
[387] ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ผู้นั้น ย่อมเสื่อมจากพระสัทธรรม
เหมือนปลาในน้ำน้อย
[388] ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ผู้นั้น ไม่งอกงามในพระสัทธรรม
เหมือนพืชเน่าในไร่นา
[389] ผู้ใดไม่มีความเคารพในเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ผู้นั้น ย่อมอยู่ห่างไกลจากนิพพาน
ในพระศาสนาของพระศาสดาผู้เป็นพระธรรมราชา
[390] ผู้ใดมีความเคารพในเพื่อนพรหมจารีทั้งหลาย
ผู้นั้น ย่อมไม่เสื่อมจากพระสัทธรรม
เหมือนปลาในน้ำมาก

เชิงอรรถ :
1 อัปปมัญญา 4 คือ พรหมวิหาร 4 (1. เมตตา ความรักใคร่ปรารถนาดีอยากให้เขามีความสุข 2. กรุณา
ความสงสารคิดช่วยให้พ้นทุกข์ 3. มุทิตา ความยินดีในเมื่อผู้อื่นมีสุข 4. อุเบกขา ความมีใจเป็นกลาง ไม่
เอนเอียงเพราะรักเพราะชัง) ที่ชื่อว่าอัปปมัญญาเพราะแผ่ไปโดยไม่มีประมาณในสัตว์ในบุคคล ไม่จำกัดขอบเขต
(ขุ.เถร.อ. 2/386/98)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :406 }