เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 2. สุภูตเถรคาถา
2. สุภูตเถรคาถา
ภาษิตของพระสุภูตเถระ
(พระสุภูตเถระได้กล่าว 5 คาถาไว้ดังนี้ว่า)
[320] คนผู้ประสงค์จะทำการงาน
ประกอบตนอยู่ในการงานที่ไม่ควรประกอบ
หากยังขืนทำอยู่
จะไม่ประสบความสำเร็จ
การประกอบในการงานที่ไม่ควรประกอบนั้นแล
เป็นลักษณะแห่งความล้มเหลว
[321] บุคคลใดยังเพิกถอนความเป็นอยู่อย่างลำบากไม่ได้
หากละทิ้งความไม่ประมาทซึ่งเป็นธรรมอันเอกเสีย
บุคคลนั้นเป็นเหมือนคนกาลกิณี
หากละทิ้งธรรมอื่น ๆ เสียแม้ทั้งหมด
ก็จะพึงเป็นเหมือนคนตาบอด
เพราะมองไม่เห็นทั้งธรรมที่สงบและธรรมที่ไม่สงบ
[322] บุคคลควรพูดถึงสิ่งที่ตนทำได้
ไม่พึงพูดถึงสิ่งที่ตนทำไม่ได้
บัณฑิตทั้งหลายย่อมรู้จักบุคคลผู้ไม่ทำ ดีแต่พูด
[323] ดอกไม้งาม มีสีสวย(แต่)ไม่มีกลิ่น แม้ฉันใด
วาจาสุภาษิตก็ฉันนั้น
ย่อมไม่มีผลแก่ผู้ไม่ทำตาม
[324] ดอกไม้งาม มีทั้งสีและมีกลิ่น แม้ฉันใด
วาจาสุภาษิต ก็ฉันนั้น
ย่อมมีผลแก่ผู้ทำตามด้วยดี

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :393 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา [5. ปัญจกนิบาต] 3. คิริมานันทเถรคาถา
3. คิริมานันทเถรคาถา
ภาษิตของพระคิริมานันทเถระ
(พระคิริมานันทเถระได้กล่าว 5 คาถาไว้ดังนี้ว่า)
[325] ฝนตกลงมาเสียงดังกระหึ่มคล้ายเสียงเพลงอันไพเราะ
กุฎีของเราสบาย มุงบังมิดชิดดี
เราเข้าไปสงบอยู่ในกุฎีนั้น
ถ้าต้องการจะตก ก็จงตกลงมาเถิดฝน
[326] ฝนตกลงมาเสียงดังกระหึ่มคล้ายเสียงเพลงอันไพเราะ
กุฎีของเราสบาย มุงบังมิดชิดดี
เรามีจิตสงบอยู่ในกุฎีนั้น
ถ้าต้องการจะตก ก็จงตกลงมาเถิดฝน
[327] ฝนตกลงมาเสียงดังกระหึ่มคล้ายเสียงเพลงอันไพเราะ
กุฎีของเราสบาย มุงบังมิดชิดดี
เราไม่มีราคะอยู่ในกุฎีนั้น
ถ้าต้องการจะตก ก็จงตกลงมาเถิดฝน
[328] ฝนตกลงมาเสียงดังกระหึ่มคล้ายเสียงเพลงอันไพเราะ
กุฎีของเราสบาย มุงบังมิดชิดดี
เราไม่มีโทสะอยู่ในกุฎีนั้น
ถ้าต้องการจะตก ก็จงตกลงมาเถิดฝน
[329] ฝนตกลงมาเสียงดังกระหึ่มคล้ายเสียงเพลงขับอันไพเราะ
กุฎีของเราสบาย มุงบังมิดชิดดี
เราไม่มีโมหะอยู่ในกุฎีนั้น
ถ้าต้องการจะตก ก็จงตกลงมาเถิดฝน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :394 }