เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ [3. จูฬวรรค] 3. รถการเปติวัตถุ
[442] และมีฝูงหงส์น่าดูน่าชม น่ารื่นรมย์ใจ
ว่ายเวียนอยู่ในน้ำไม่ขาดสาย
ทั้งหมดมีเสียงไพเราะ
พากันมาชุมนุมส่งเสียงร้องอย่างไพเราะดังเสียงกลอง
[443] เธอรุ่งเรืองด้วยเทวฤทธิ์
มีบริวารยศ ยืนพิงอยู่ในเรือ
เธอผู้มีคิ้วโก่งดำสนิท
มีหน้ายิ้มแย้ม พูดจาน่ารัก
มีอวัยวะทุกส่วนงาม รุ่งเรืองยิ่งนัก
[444] วิมานนี้ปราศจากธุลี
ตั้งอยู่บนภาคพื้นราบเรียบ
มีสวนป่าซึ่งชวนให้ยินดีเพลิดเพลินเจริญใจ
แน่ะนารีผู้มองแล้วไม่เบื่อ
เราปรารถนาที่จะอยู่บันเทิงร่วมกับเธอในสวนนันทวันของเธอนี้
(นางเวมานิกเปรตกล่าวว่า)
[445] ท่านจงทำกรรมซึ่งจะให้ท่านได้เสวยผลในวิมานของฉันนี้
และจิตของท่านจงน้อมมาในวิมานนี้ด้วย
ท่านครั้นทำกรรมซึ่งเป็นเหตุให้ได้เสวยผลในวิมานนี้แล้ว
จักได้ฉันผู้จะทำให้ท่านสมความปรารถนาได้ด้วยประการอย่างนี้
[446] มาณพนั้นรับคำนางเวมานิกเปรตนั้นแล้ว
จึงได้ทำกุศลกรรมซึ่งเป็นเหตุให้ได้เสวยผลในวิมานนั้น
แล้วก็ได้อยู่ร่วมกับนางเวมานิกเปรตนั้น
รถการเปติวัตถุที่ 3 จบ
ภาณวารที่ 2 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :237 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เปตวัตถุ [3. จูฬวรรค] 4. ภุสเปตวัตถุ
4. ภุสเปตวัตถุ
เรื่องเปรตกอบแกลบ
(พระมหาโมคคัลลานเถระได้ถามถึงบุพกรรมของเปรตทั้ง 4 ตน ด้วยคาถา
เหล่านี้ว่า)
[447] ท่านทั้ง 4 ตนนี้
ตนหนึ่งกอบเอาแกลบข้าวสาลีที่ไฟกำลังลุกโชน
โปรยใส่ศีรษะของตนเอง
อีกตนหนึ่งเอาฆ้อนเหล็กทุบศีรษะตนเองจนศีรษะแตก
ส่วนตนนี้เป็นหญิงกินเนื้อส่วนหลังและโลหิตของตนเอง
ส่วนท่านกินคูถซึ่งเป็นของไม่สะอาด ไม่น่าปรารถนา
นี้เป็นผลกรรมอะไร
(นางเปรตซึ่งอดีตเคยเป็นภรรยาพ่อค้าโกงตอบว่า)
[448] เมื่อก่อน ผู้นี้ทำร้ายมารดา
ส่วนผู้นี้เป็นพ่อค้าโกง
ผู้นี้กินเนื้อแล้วแก้ตัวด้วยการกล่าวเท็จ
[449] ครั้งที่ดิฉันเป็นมนุษย์อยู่ในหมู่มนุษย์
เป็นหญิงแม่เรือน ใหญ่กว่าทุกคนในสกุล
เมื่อสิ่งของที่ชนเหล่าอื่นขอได้ยังมีอยู่ก็เก็บซ่อนเสีย
(โดยคิดว่า) เราจะไม่ให้อะไร ๆ จากของที่มีอยู่นี้
[450] ปกปิดไว้ด้วยการกล่าวเท็จว่า ในเรือนของเราไม่มีสิ่งนี้
ถ้าเราปกปิดของที่มีไว้ ขอคูถจงเป็นอาหารของเรา
[451] เพราะวิบากทั้งสอง คือ วิบากแห่งการกระทำนั้นด้วย
วิบากแห่งการกล่าวเท็จด้วย
ภัตข้าวสาลีที่มีกลิ่นหอมจึงกลับกลายเป็นคูถสำหรับดิฉัน

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 26 หน้า :238 }