เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [5. ปารายนวรรค] 13. อุทยมาณวกปัญหา
หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ฟังพระดำรัสของพระองค์
ขอพระองค์โปรดตรัสตอบปัญหา
แก่ชนเหล่านั้นให้แจ่มแจ้งด้วยเถิด
เพราะว่าธรรมนี้พระองค์ทรงรู้ชัดแล้ว
[1110] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ภัทราวุธ)
นรชนควรทำลายเครื่องยึดมั่น1ทั้งปวง
ทั้งชั้นสูง ชั้นต่ำ และชั้นกลาง
เพราะว่าสัตว์ทั้งหลายเข้าไปยึดถือขันธ์ใด ๆ ในโลก
มารย่อมติดตามสัตว์ เพราะสิ่งที่ยึดถือนั้นนั่นแล
[1111] เพราะเหตุนั้น ภิกษุเมื่อรู้ชัด
เพ่งพิจารณาหมู่สัตว์นี้ผู้ติดอยู่ในบ่วงแห่งมัจจุราช2
ว่าเป็นผู้ข้องอยู่ในเครื่องยึดมั่น
ควรเป็นผู้มีสติ ไม่เข้าไปยึดถือเครื่องกังวลในโลกทั้งปวง
ภัทราวุธมาณวกปัญหาที่ 12 จบ

13. อุทยมาณวกปัญหา3
ว่าด้วยปัญหาของอุทัยมาณพ
[1112] (อุทัยมาณพทูลถามดังนี้)
ข้าพระองค์มีปัญหาที่จะทูลถาม
จึงมาเฝ้าพระองค์ผู้ทรงมีฌาน ปราศจากธุลี
ประทับนั่งอยู่ ผู้ทรงทำกิจสำเร็จแล้ว ไม่มีอาสวะ

เชิงอรรถ :
1 เครื่องยึดมั่น หมายถึงรูปตัณหา คือ ยึดมั่น ถือมั่นในรูปเป็นต้น (ขุ.สุ.อ. 2/1110/449)
2 บ่วงแห่งมัจจุราช หมายถึงกิเลส ขันธ์ และอภิสังขาร (ขุ.จู. (แปล) 30/73/266)
3 ขุ.จู. (แปล) 30/130-136/30-31

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :768 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [5. ปารายนวรรค] 13. อุทยมาณวกปัญหา
ทรงถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง
ขอพระองค์โปรดตรัสบอกอัญญาวิโมกข์1
อันเป็นเครื่องทำลายอวิชชาด้วยเถิด
[1113] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า อุทัย)
เราจะบอกอัญญาวิโมกข์
อันเป็นเครื่องละความพอใจในกาม และโทมนัสทั้ง 2 อย่าง
เป็นเครื่องบรรเทาความย่อท้อ
และเป็นเครื่องกั้นความคะนอง
[1114] เราจะบอกอัญญาวิโมกข์ที่บริสุทธิ์
เพราะมีอุเบกขาและสติ
ที่มีธรรมตรรกะเป็นเบื้องต้น
เป็นเครื่องทำลายอวิชชา2
[1115] (อุทัยมาณพทูลถามอีกดังนี้)
สัตว์โลกมีอะไรเป็นเครื่องประกอบไว้
อะไรเล่าเป็นเหตุเที่ยวไปของสัตว์โลกนั้น
เพราะละอะไรได้เล่า พระองค์จึงตรัสว่า นิพพาน
[1116] (พระผู้มีพระภาคตรัสตอบดังนี้)
สัตว์โลกมีความเพลิดเพลินเป็นเครื่องประกอบไว้
ความตรึก3เป็นเหตุเที่ยวไปของสัตว์โลกนั้น
เพราะละตัณหาได้ เราจึงเรียกว่า นิพพาน

เชิงอรรถ :
1 อัญญาวิโมกข์ หมายถึงความหลุดพ้นด้วยอรหัตตผล (องฺ.ติก.อ. 2/33/115-116) และดู ขุ.จู. (แปล)
30/74-75/266-275 ประกอบ
2 ข้อ 1113-4 ดูเทียบ องฺ.ติก. (แปล) 20/33/186, ขุ.จู. (แปล) 30/75-76/272-277
3 ความตรึก (วิตก) มี 9 อย่าง (1) กามวิตก (ความตรึกในกาม) (2) พยาบาทวิตก (ความตรึกในพยาบาท)
(3) วิหิงสาวิตก (ความตรึกในความเบียดเบียน) (4) ญาติวิตก (ความตรึกถึงญาติ) (5) ชนปทวิตก
(ความตรึกถึงชนบท) (6) อมราวิตก (ความตรึกถึงเทพเจ้า) (7) ปรานุทยตาปฏิสังยุตตวิตก (ความตรึก
ที่ประกอบด้วยความเป็นผู้เอ็นดูผู้อื่น) (8) ลาภสักการสิโลกปฏิสังยุตตวิตก (ความตรึกที่ประกอบด้วย
ลาภสักการะและความสรรเสริญ) (9) อนวัญญัตติปฏิสังยุตตวิตก (ความตรึกที่ประกอบด้วยความไม่ถูก
ดูหมิ่น) (ขุ.จู. (แปล) 30/78/278-279)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :769 }