พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต [3. มหาวรรค] 7. เสลสูตร
พระผู้มีพระภาคทรงรับนิมนต์ด้วยพระอาการดุษณี เมื่อเกณิยชฎิลทราบอาการ
ที่พระผู้มีพระภาคทรงรับนิมนต์แล้ว จึงลุกจากที่นั่งเข้าไปสู่อาศรมของตนแล้วเรียก
พวกมิตร คนสนิท และญาติสาโลหิตมาบอกว่า ท่านทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอแจ้ง
ให้ทราบว่า ข้าพเจ้าได้นิมนต์พระสมณโคดมพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์มาฉันภัตตาหาร
เช้าวันพรุ่งนี้ จึงขอให้ท่านทั้งหลายสละแรงกายช่วยเหลือข้าพเจ้าด้วยเถิด ชนเหล่านั้น
รับคำแล้ว บางพวกขุดที่ทำเตา บางพวกฝ่าฟืน บางพวกล้างถ้วยโถโอชาม บางพวก
จัดหาน้ำใช้น้ำฉัน บางพวกปูอาสนะ ส่วนเกณิยชฎิลลงมือตบแต่งโรงประรำพิธีเอง
ทีเดียว
เสลพราหมณ์ได้ฟังคำว่าพุทธะ
สมัยนั้น เสลพราหมณ์อาศัยอยู่ที่ป่าอาปณนิคม เป็นผู้มีความรู้จบไตรเพท
พร้อมทั้งนิฆัณฑุศาสตร์ เกฏุภศาสตร์ อักษรศาสตร์ และประวัติศาสตร์ รู้ตัวบท
และไวยากรณ์ ชำนาญโลกายตศาสตร์ และการทำนายลักษณะมหาบุรุษ ทั้งยัง
เป็นอาจารย์สอนมนตร์แก่มาณพจำนวน 300 คนอีกด้วย
สมัยนั้น เกณิยชฎิลก็เป็นผู้หนึ่งที่มีความเลื่อมใสในเสลพราหมณ์มาก ขณะนั้น
เสลพราหมณ์กำลังเดินพักผ่อนพร้อมกับมาณพ 300 คนติดตามไปห่าง ๆ ผ่านไป
ทางอาศรมของเกณิยชฎิล ได้เห็นคนบางพวกกำลังขุดที่ทำเตา ฯลฯ บางพวกปู
อาสนะ ส่วนเกณิยชฎิลกำลังลงมือตบแต่งโรงประรำพิธีเองทีเดียว ครั้นเห็นดังนั้น
จึงกล่าวกับเกณิยชฎิลดังนี้ว่า ท่านเกณิยะ จะมีพิธีอาวาหมงคล วิวาหมงคลหรือ
พิธีบูชามหายัญจะปรากฏแก่ท่าน หรือท่านได้ทูลเชิญพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธรัฐ
ให้เสด็จมาเสวยพระกระยาหารพร้อมกับข้าราชบริพารในเช้าวันพรุ่งนี้หรือ
เกณิยชฎิลบอกว่า ข้าแต่ท่านเสละ อาวาหมงคล วิวาหมงคลไม่มีแก่ข้าพเจ้า
ทั้งพระเจ้าพิมพิสารจอมทัพมคธรัฐ ข้าพเจ้าก็มิได้ทูลเชิญเสด็จมาเสวยพระกระยาหาร
พร้อมทั้งข้าราชบริพารในเช้าวันพรุ่งนี้เลย แต่พิธีมหายัญได้ปรากฏแก่ข้าพเจ้า
เนื่องจากพระสมณโคดมศากยบุตรผู้เสด็จออกผนวชจากศากยตระกูล กำลังเสด็จจาริก
ไปในอังคุตตราปชนบทพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่จำนวน 1,250 รูป เสด็จมา