เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ [3. ติกนิบาต] 1. ปฐมวรรค 9. ตัณหาสูตร
9. ตัณหาสูตร1
ว่าด้วยตัณหา
[58] แท้จริง พระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว พระสูตรนี้ พระอรหันต์
กล่าวไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
“ภิกษุทั้งหลาย ตัณหา 3 ประการนี้
ตัณหา 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. กามตัณหา2
2. ภวตัณหา3
3. วิภวตัณหา4
ภิกษุทั้งหลาย ตัณหา 3 ประการนี้แล”
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสเนื้อความดังกล่าวมานี้แล้ว ในพระสูตรนั้น จึงตรัส
คาถาประพันธ์ดังนี้ว่า
ชนทั้งหลายผู้เกี่ยวข้องด้วยโยคะคือตัณหา
มีจิตยินดีในภพน้อยและภพใหญ่5
เป็นผู้ติดข้องด้วยโยคะคือบ่วงมาร
ไม่มีความเกษมจากโยคะ

เชิงอรรถ :
1 ดูเทียบ ที.ปา. 11/305/194, สํ.สฬา. (แปล) 18/323/342, องฺ.ฉกฺก. (แปล) 22/106/627, อภิ.วิ.
(แปล) 35/916-917, 918/573-574
2 กามตัณหา หมายถึงความมีจิตกำหนัดนักในกาม (ขุ.อิติ.อ.58/227)
3 ภวตัณหา หมายถึงความมีจิตกำหนัดนักในภวทิฏฐิ (ขุ.อิติ.อ.58/227)
4 วิภวตัณหา หมายถึงความมีจิตกำหนัดนักในอุจเฉททิฏฐิ (ขุ.อิติ.อ.58/227)
5 ในที่นี้ ภพน้อย หมายถึงสัสสตทิฏฐิ หรือภวตัณหา ภพใหญ่ หมายถึงอุจเฉททิฏฐิ หรือวิภวตัณหา (ขุ.อิติ.อ.
58/227)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :412 }


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตกะ [3. ติกนิบาต] 1. ปฐมวรรค 10. มารเธยยสูตร
สัตว์เหล่านั้นย่อมท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏ
เข้าถึงชาติและมรณะ
ส่วนชนเหล่าใดละตัณหาได้
ปราศจากตัณหาในภพน้อยและภพใหญ่
บรรลุธรรมเป็นที่สิ้นอาสวะแล้ว
ชนเหล่านั้นชื่อว่า ไปถึงฝั่งในโลก
แม้เนื้อความนี้ พระผู้มีพระภาคก็ตรัสไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้แล
ตัณหาสูตรที่ 8 จบ

10. มารเธยยสูตร
ว่าด้วยธรรมที่เป็นเหตุให้ล่วงพ้นบ่วงมาร
[59] แท้จริง พระสูตรนี้ พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว พระสูตรนี้ พระอรหันต์
กล่าวไว้แล้ว ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้
“ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการ ย่อมล่วงพ้นบ่วงมาร รุ่งเรืองดุจ
ดวงอาทิตย์
ธรรม 3 ประการ อะไรบ้าง คือ
ภิกษุในธรรมวินัยนี้
1. เป็นผู้ประกอบด้วยสีลขันธ์อันเป็นอเสขะ
2. เป็นผู้ประกอบด้วยสมาธิขันธ์อันเป็นอเสขะ
3. เป็นผู้ประกอบด้วยปัญญาขันธ์อันเป็นอเสขะ
ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม 3 ประการนี้แล ย่อมล่วงพ้นบ่วงมาร
รุ่งเรืองดุจดวงอาทิตย์”

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :413 }