เมนู

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ 9. เมตตสูตร
[16] บุญสัมปทา1นี้มีประโยชน์มากอย่างนี้
เพราะฉะนั้น บัณฑิตผู้เป็นปราชญ์
จึงสรรเสริญภาวะแห่งบุญที่ทำไว้แล้ว
นิธิกัณฑสูตร จบ

9. เมตตสูตร
ว่าด้วยการแผ่เมตตา
(พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถานี้แก่ภิกษุทั้งหลายผู้อยู่ป่า ดังนี้)
[1] ผู้ฉลาดในประโยชน์มุ่งหวังบรรลุสันตบท2
ควรบำเพ็ญกรณียกิจ3ควรเป็นผู้อาจหาญ ซื่อตรง
เคร่งครัด ว่าง่าย อ่อนโยน และไม่เย่อหยิ่ง
[2] ควรเป็นผู้สันโดษ เลี้ยงง่าย มีกิจน้อย4
มีความประพฤติเบา5 มีอินทรีย์สงบ มีปัญญารักษาตน
ไม่คะนอง6 ไม่ยึดติดในตระกูลทั้งหลาย

เชิงอรรถ :
1 บุญสัมปทา หมายถึงความถึงพร้อมแห่งบุญ (ขุ.ขุ.อ. 8/206)
2 สันตบท หมายถึงนิพพาน (ขุ.ขุ.อ. 9/212)
3 กรณียกิจ หมายถึงการศึกษาในไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ตรงกันข้ามกับ อกรณียกิจ คือ สีลวิบัติ
ทิฏฐิวิบัติ อาจารวิบัติ อาชีววิบัติ (ขุ.ขุ.อ. 9/212)
4 มีกิจน้อย ในที่นี้หมายถึงไม่ขวนขวายการงานต่าง ๆ ที่จะทำให้จิตฟุ้งซ่าน ไม่พูดคุยเพ้อเจ้อ ไม่คลุกคลี
หมู่คณะ ปล่อยวางหน้าที่รับผิดชอบงานก่อสร้าง งานบริหารคณะสงฆ์ เป็นต้น มุ่งบำเพ็ญสมณธรรมเป็น
หลัก (ขุ.ขุ.อ. 9/216)
5 มีความประพฤติเบา ในที่นี้หมายถึงมีเพียงบริขาร 8 เช่น บาตร จีวร เป็นต้น ไม่สะสมสิ่งของมากให้เป็น
ภาระ เหมือนนกมีเพียงปีกบินไปฉะนั้น (ขุ.ขุ.อ. 9/216)
6 ไม่คะนอง หมายถึงไม่คะนองกาย วาจา และใจ (ขุ.ขุ.อ. 9/217)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 25 หน้า :20 }