เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์] 1. สจิตตวรรค 9. ปัพพัชชาสูตร
9. ปัพพัชชาสูตร
ว่าด้วยจิตที่ได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา
[59] ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า
‘จิตของเราจักได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา และบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้น
แล้ว จักไม่ครอบงำจิตอยู่ (คือ) จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยอนิจจสัญญา 1
จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยอนัตตสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วย
อสุภสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยอาทีนวสัญญา 1 จิตของเราจักรู้
ความประพฤติชอบและไม่ชอบของสัตว์โลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิต
ของเราจักรู้ความเจริญและความเสื่อมของสัตว์โลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1
จิตของเราจักรู้ความเกิดและความดับแห่งสังขารโลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1
จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยปหานสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วย
วิราคสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยนิโรธสัญญา 1’ ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล
เมื่อใด จิตของภิกษุได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา และบาปอกุศลธรรม
ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ครอบงำจิตอยู่ (คือ) จิตได้รับการอบรมด้วยอนิจจสัญญา 1
จิตได้รับการอบรมด้วยอนัตตสัญญา 1 จิตได้รับการอบรมด้วยอสุภสัญญา 1 จิตได้
รับการอบรมด้วยอาทีนวสัญญา 1 จิตนั้นรู้ความประพฤติชอบและไม่ชอบของสัตว์
โลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิตรู้ความเจริญและความเสื่อมของสัตว์โลก
แล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิตรู้ความเกิดและความดับแห่งสังขารโลกแล้วได้
รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิตได้รับการอบรมด้วยปหานสัญญา 1 จิตได้รับการ
อบรมด้วยวิราคสัญญา 1 จิตได้รับการอบรมด้วยนิโรธสัญญา 1
เมื่อนั้น ภิกษุนั้นพึงหวังได้ผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
ปัพพัชชาสูตรที่ 9 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 24 หน้า :127 }