เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์] 1. สจิตตวรรค 8. มูลกสูตร
8. ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นแก่น
9. ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นที่หยั่งลง
10. ธรรมทั้งปวงมีอะไรเป็นที่สุด’
เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว ควรตอบพวกอัญเดียรถีย์ปริพาชกเหล่านั้น
อย่างนี้ว่า ‘ผู้มีอายุทั้งหลาย
1. ธรรมทั้งปวงมีฉันทะเป็นมูล
2. ธรรมทั้งปวงมีมนสิการเป็นต้นกำเนิด
3. ธรรมทั้งปวงมีผัสสะเป็นเหตุเกิด
4. ธรรมทั้งปวงมีเวทนาเป็นที่ชุมนุม
5. ธรรมทั้งปวงมีสมาธิเป็นประมุข
6. ธรรมทั้งปวงมีสติเป็นใหญ่
7. ธรรมทั้งปวงมีปัญญาเป็นยอดยิ่ง
8. ธรรมทั้งปวงมีวิมุตติเป็นแก่น
9. ธรรมทั้งปวงมีอมตะเป็นที่หยั่งลง
10. ธรรมทั้งปวงมีนิพพานเป็นที่สุด’
ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายถูกถามอย่างนี้แล้ว ควรตอบพวกอัญเดียรถีย์
ปริพาชกเหล่านั้นอย่างนี้แล
มูลกสูตรที่ 8 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 24 หน้า :126 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต [2. ทุติยปัณณาสก์] 1. สจิตตวรรค 9. ปัพพัชชาสูตร
9. ปัพพัชชาสูตร
ว่าด้วยจิตที่ได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา
[59] ภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า
‘จิตของเราจักได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา และบาปอกุศลธรรมที่เกิดขึ้น
แล้ว จักไม่ครอบงำจิตอยู่ (คือ) จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยอนิจจสัญญา 1
จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยอนัตตสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วย
อสุภสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยอาทีนวสัญญา 1 จิตของเราจักรู้
ความประพฤติชอบและไม่ชอบของสัตว์โลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิต
ของเราจักรู้ความเจริญและความเสื่อมของสัตว์โลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1
จิตของเราจักรู้ความเกิดและความดับแห่งสังขารโลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1
จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยปหานสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วย
วิราคสัญญา 1 จิตของเราจักได้รับการอบรมด้วยนิโรธสัญญา 1’ ภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายพึงสำเหนียกอย่างนี้แล
เมื่อใด จิตของภิกษุได้รับการอบรมตามสมควรแก่บรรพชา และบาปอกุศลธรรม
ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ครอบงำจิตอยู่ (คือ) จิตได้รับการอบรมด้วยอนิจจสัญญา 1
จิตได้รับการอบรมด้วยอนัตตสัญญา 1 จิตได้รับการอบรมด้วยอสุภสัญญา 1 จิตได้
รับการอบรมด้วยอาทีนวสัญญา 1 จิตนั้นรู้ความประพฤติชอบและไม่ชอบของสัตว์
โลกแล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิตรู้ความเจริญและความเสื่อมของสัตว์โลก
แล้วได้รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิตรู้ความเกิดและความดับแห่งสังขารโลกแล้วได้
รับการอบรมด้วยสัญญา 1 จิตได้รับการอบรมด้วยปหานสัญญา 1 จิตได้รับการ
อบรมด้วยวิราคสัญญา 1 จิตได้รับการอบรมด้วยนิโรธสัญญา 1
เมื่อนั้น ภิกษุนั้นพึงหวังได้ผลอย่าง 1 ใน 2 อย่าง คือ อรหัตตผลในปัจจุบัน
หรือเมื่อยังมีอุปาทานเหลืออยู่ ก็จักเป็นอนาคามี
ปัพพัชชาสูตรที่ 9 จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 24 หน้า :127 }