เมนู

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 5.มหายัญญวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค
เสวยสุขด้วยนามกาย บรรลุตติยฌานที่พระอริยะสรรเสริญว่า ‘ผู้มีอุเบกขา มีสติ
อยู่เป็นสุข’ เพราะละสุขและทุกข์ได้ เพราะโสมนัสและโทมนัสดับไปก่อนแล้ว บรรลุ
จตุตถฌานที่ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข มีสติบริสุทธิ์เพราะอุเบกขาอยู่”
“นันทมาตา น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ”
7. “ท่านผู้เจริญ ธรรมที่น่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏของดิฉัน มิใช่มีเท่านี้
ธรรมที่น่าอัศจรรย์ ไม่เคยปรากฏของดิฉัน แม้อย่างอื่นก็ยังมีอยู่ บรรดาสังโยชน์
เบื้องต่ำ 5 ประการที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้ว ดิฉันไม่เห็นสังโยชน์อะไรในตน
เองที่ยังละไม่ได้”
“นันทมาตา น่าอัศจรรย์จริง ไม่เคยปรากฏ”
ลำดับนั้นแล ท่านพระสารีบุตรได้ชี้แจงให้นันทมาตาอุบาสิกาเห็นชัด ชวนใจให้
อยากรับเอาไปปฏิบัติ เร้าใจให้อาจหาญแกล้วกล้า ปลอบชโลมใจให้สดชื่นร่าเริง
ด้วยธรรมีกถา ลุกจากอาสนะแล้วจากไป
นันทมาตาสูตรที่ 10 จบ
มหายัญญวรรคที่ 5 จบ

รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ

1. สัตตวิญญาณัฏฐิติสูตร 2. สมาธิปริกขารสูตร
3. ปฐมอัคคิสูตร 4. ทุติยอัคคิสูตร
5. ปฐมสัญญาสูตร 6. ทุติยสัญญาสูตร
7. เมถุนสูตร 8. สังโยคสูตร
9. ทานมหัปผลสูตร 10. นันทมาตาสูตร

ปัณณาสก์ จบ

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :96 }


พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 6.อัพยากตวรรค 1.อัพยากตสูตร
6. อัพยากตวรรค
หมวดว่าด้วยเรื่องที่ไม่พยากรณ์
1. อัพยากตสูตร
ว่าด้วยเรื่องที่ไม่พยากรณ์
[54] ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวาย
อภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้พระอริยสาวกผู้ได้สดับ
ไม่เกิดความลังเลสงสัยในเรื่องที่ไม่ควรพยากรณ์”
พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ภิกษุ เพราะทิฏฐิ1ดับไป อริยสาวกผู้ได้สดับจึงไม่
เกิดความลังเลสงสัยในเรื่องที่ไม่ควรพยากรณ์ คือ
1. ทิฏฐินี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว ตถาคต2เกิดอีก’ ทิฏฐินี้ว่า ‘หลังจาก
ตายแล้ว ตถาคตไม่เกิดอีก’ ทิฏฐินี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว ตถาคต
เกิดอีกและไม่เกิดอีก’ ทิฏฐินี้ว่า ‘หลังจากตายแล้ว ตถาคตจะว่า
เกิดอีกก็มิใช่ จะว่าไม่เกิดอีกก็มิใช่’
ปุถุชนผู้มิได้สดับย่อมไม่รู้ชัดทิฏฐิ3 ไม่รู้ชัดเหตุเกิดทิฏฐิ ไม่รู้ชัด
ความดับทิฏฐิ ไม่รู้ชัดข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทิฏฐิ ทิฏฐินั้นย่อม
เจริญแก่เขา เขาย่อมไม่หลุดพ้นจากชาติ(ความเกิด) ชรา(ความแก่)
มรณะ(ความตาย) โสกะ(ความเศร้าโศก) ปริเทวะ (ความคร่ำครวญ)
ทุกข์(ความทุกข์กาย) โทมนัส (ความทุกข์ใจ) และอุปายาส (ความ
คับแค้นใจ) เรากล่าวว่า ไม่หลุดพ้นจากทุกข์

เชิงอรรถ :
1 ทิฏฐิ ในที่นี้หมายถึงมิจฉาทิฏฐิ (ความเห็นผิด) (องฺ.สตฺตก.อ. 3/54/189)
2 ตถาคต ในที่นี้เป็นคำที่ลัทธิอื่นๆ ใช้มาก่อนพุทธกาล หมายถึงอัตตา (อาตมัน) ไม่ได้หมายถึงพระพุทธเจ้า
อรรถกถาอธิบายว่า หมายถึงสัตว์ (เทียบ ที.สี.อ. 1/65/108, องฺ.สตฺตก.อ. 3/54/189)
3 ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทิฏฐิ ในที่นี้หมายถึงโสดาปัตติมรรค (องฺ.สตฺตก.อ. 3/54/190)

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 23 หน้า :97 }