พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย นวกนิบาต [1.ปฐมปัณณาสก์] 4.มหาวรรค 8.เทวาสุรสังคามสูตร
ภิกษุล่วงอากิญจัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุเนวสัญญานาสัญญายตน-
ฌานอยู่ เราก็เรียกว่า ภิกษุนี้ถึงที่สุดโลกแล้ว อยู่ในที่สุดโลก คนพวกอื่นกล่าวถึง
ภิกษุนั้นอย่างนี้ว่า แม้ภิกษุนี้ก็เกี่ยวข้องกับโลก สลัดตนออกจากโลกไม่ได้ แม้เราก็
กล่าวอย่างนี้ว่า แม้ภิกษุนี้ก็เกี่ยวข้องกับโลก สลัดตนออกจากโลกไม่ได้
ภิกษุล่วงเนวสัญญานาสัญญายตนฌานโดยประการทั้งปวง บรรลุสัญญาเวทยิต-
นิโรธอยู่ อาสวะทั้งหลายของเธอหมดสิ้นแล้ว เพราะเห็นด้วยปัญญา เราเรียกว่า
ภิกษุนี้ถึงที่สุดโลกแล้ว อยู่ในที่สุดโลก ข้ามพ้นตัณหาเครื่องข้องในโลกได้
โลกายติกสูตรที่ 7 จบ
8. เทวาสุรสังคามสูตร
ว่าด้วยสงครามระหว่างเทวดากับอสูร
[39] ภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว สงครามระหว่างเทวดากับอสูรได้
ประจัญหน้ากันแล้ว ในสงครามครั้งนั้น พวกอสูรชนะ พวกเทวดาแพ้ พวกเทวดาที่
แพ้ได้พากันหลบหนีมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือ พวกอสูรได้ไล่ตามไป ครั้งนั้นแล
พวกเทวดาได้มีความคิดดังนี้ว่า พวกอสูรกำลังไล่ตามมา ทางที่ดี เราควรรบกับ
พวกอสูรเป็นครั้งที่ 2 พวกเทวดาได้รบกับพวกอสูรเป็นครั้งที่ 2 แล้ว แม้ครั้งที่ 2
พวกอสูรก็ชนะอีก พวกเทวดาแพ้ และพวกเทวดาที่แพ้ได้พากันหลบหนีมุ่งหน้าไป
ทางทิศเหนือ พวกอสูรได้ไล่ตามไป
ภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล พวกเทวดาได้มีความคิดดังนี้ว่า พวกอสูรกำลังไล่
ตามมา ทางที่ดี เราควรรบกับพวกอสูรเป็นครั้งที่ 3 พวกเทวดาได้รบกับพวกอสูร
เป็นครั้งที่ 3 แล้ว แม้ครั้งที่ 3 พวกอสูรก็ชนะอีก พวกเทวดาแพ้ พวกเทวดาที่แพ้
ต่างก็กลัวพากันเข้าไปยังเทพบุรี ก็แลพวกเทวดาที่อยู่ในเทพบุรีได้มีความคิดดังนี้ว่า
บัดนี้ พวกเราได้เครื่องป้องกันตนจากความขลาดกลัวอยู่ พวกอสูรจะทำอะไรเรา
ไม่ได้ แม้พวกอสูรก็ได้มีความคิดดังนี้ว่า บัดนี้ พวกเทวดาได้มีเครื่องป้องกันตน
จากความขลาดกลัวอยู่ พวกเราจะทำอะไรพวกเทวดาไม่ได้