พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 3.วัชชิสัตตกวรรค รวมพระสูตรที่มีในวรรค
ส่วนอุบาสกใดไม่ละเลยการเยี่ยมเยียนภิกษุผู้อบรมตน
ไม่ทอดทิ้งการฟังอริยธรรม ศึกษาในอธิศีล
มีความเลื่อมใสยิ่งขึ้นในภิกษุทั้งหลาย
ปรารถนาฟังสัทธรรมอย่างไม่คอยคิดโต้แย้ง
ไม่แสวงหาผู้รับทักษิณานอกศาสนานี้
และทำอุปการะในศาสนานี้ก่อน
อุบาสกนั้นผู้เสพธรรม 7 ประการ
อันไม่เป็นเหตุแห่งความเสื่อมที่เราแสดงดีแล้วนี้แล
ย่อมไม่เสื่อมจากสัทธรรม
ปราภวสูตรที่ 11 จบ
วัชชิสัตตกวรรคที่ 3 จบ
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
1. สารันททสูตร 2. วัสสการสูตร
3. ปฐมสัตตกสูตร 4. ทุติยสัตตกสูตร
5. ตติยสัตตกสูตร 6. โพชฌังคสูตร
7. สัญญาสูตร 8. ปฐมปริหานิสูตร
9. ทุติยปริหานิสูตร 10. วิปัตติสูตร
11. ปราภวสูตร
พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย สัตตกนิบาต 4.เทวตาวรรค 1.อัปปมาทคารวสูตร
4. เทวตาวรรค
หมวดว่าด้วยเทวดา
1. อัปปมาทคารวสูตร
ว่าด้วยความเคารพในความไม่ประมาท
[32] ครั้งนั้น เมื่อราตรีผ่านไป1 เทวดาองค์หนึ่งมีวรรณะงดงามยิ่งนัก เปล่ง
รัศมีให้สว่างไปทั่วพระเชตวัน เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายอภิวาท
แล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควร ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคดังนี้ว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 7 ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่ภิกษุ
ธรรม 7 ประการ อะไรบ้าง คือ
1. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระศาสดา
2. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระธรรม
3. ความเป็นผู้มีความเคารพในพระสงฆ์
4. ความเป็นผู้มีความเคารพในสิกขา
5. ความเป็นผู้มีความเคารพในสมาธิ
6. ความเป็นผู้มีความเคารพในความไม่ประมาท
7. ความเป็นผู้มีความเคารพในปฏิสันถาร2
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ธรรม 7 ประการนี้แล ย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เสื่อมแก่
ภิกษุ
เชิงอรรถ :
1 ราตรีผ่านไป ในที่นี้หมายถึงปฐมยาม (ยามแรก) กำหนดเวลา 4 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 18 นาฬิกา ถึง 22
นาฬิกาแห่งราตรีผ่านไป กำลังอยู่ในช่วงมัชฌิมยาม (ยามท่ามกลาง) คือ กำลังอยู่ในช่วงเวลา 22 นาฬิกา
ถึง 2 นาฬิกาของวันใหม่ (องฺ.ฉกฺก.อ. 3/21-22/108) และดู องฺ.ฉกฺก. (แปล) 22/32/478
2 ปฏิสันถาร ในที่นี้หมายถึงการต้อนรับ มี 2 อย่าง คือ (1) อามิสปฏิสันถาร (การต้อนรับด้วยอามิส)
(2) ธัมมปฏิสันถาร (การต้อนรับด้วยธรรม) (องฺ.ทุก. (แปล) 20/153/123)